ผมว่ามันต้องมีคนคิดสงสัยเหมือนผม เวลาไปสถานที่ต่างๆ แล้วเราดันอยากรู้ที่มาของชื่อนั้นว่ามันมาจากอะไร
เรื่องตามหาที่มาของชื่อ มันมาติดตัวเอาตอนสมัยเรียนมัธยมต้น คราวนั้นอาจารย์ประจำวิชาสังคมศึกษา บอกให้ไปหาประวัติหมู่บ้านตัวเองมาส่ง ว่าเป็นมายังไง ทำไมถึงตั้งชื่อนี้ และจากจุดนั้นเป็นต้นมาตัวเองมักจะอยากรู้และตั้งคำถามว่า ชื่อนี้ได้มาแต่ใด?
หมู่บ้านนี้ วัดนี้ ตลาดนี้ และอีกสารพัด
ล่าสุดไปเดินตลาดหนองหอย ผมเพิ่งรู้ว่าแต่เดิมในพื้นที่ตำบลหนองหอย ตรงหมู่บ้านเสาหิน มันมีหนองน้ำขนาดใหญ่ ที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งนกและหอยในหนองน้ำแห่งนี้เยอะ โดยเฉพาะหอยซึ่งมีมาก และจากการที่มันมีหอยเยอะ ชาวบ้านก็เลยพากันเรียกว่า “หนองหอย” จนต่อมากลายเป็นชื่อของตำบลหนองหอยในปัจจุบัน
สมมตินะครับ สมมติว่า ณ ตอนนั้นในหนองน้ำไม่ได้มีหอยเยอะ แต่เป็นปลาไนแทน ชาวบ้านแถวนั้นเขาจะพากันเรียกกันว่าหนองอะไร
………. (เว้นไว้ให้เติมเอาเอง)
มาที่เรื่องของตลาดหนองหอยดีกว่า ตลาดหนองหอย จะตั้งอยู่ในตำบลหนองหอย ตัวเมืองเชียงใหม่ บนถนนเส้นเชียงใหม่ – ลำพูน ด้วยสัมผัสแรกที่เจอ ขนาดของตลาดแห่งนี้อยู่ในระดับพอดี ไม่ได้ใหญ่ หรือเล็กเกิน
มาสำรวจกันในส่วนแรก หน้าสุดของตลาด ร้านรวงในช่วงกลางวันมีเปิดบางปิดบางตามอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งตรงโซนนี้ก็จะมีทั้งร้านอาหาร แผงลอตเตอร์รี่ แผงหนังสือพิมพ์ ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง สลับกันไป บรรยากาศส่วนใหญ่ค่อนข้างเงียบเหงา ซึ่งมันค่อนข้างจะแตกต่างกันพอสมควรกับถนนหน้าตลาดที่รถราจะพลุกพล่านกันเอยู่เสมอ
จากนั้นพอเข้ามาด้านในตลาดซักหน่อยขวามือเป็นแผงลอยข้าวอาหารการกินกันครับ มีทั้งของกินเล่น อาหารไทย อาหารพื้นเมือง ผลไม้ ของฝาก ส่วนหลังสุดของซีกฝั่งขวามือ จะมีร้านอาหารเปิดขายพร้อมโต๊ะให้นั่งกินติดกับที่จอดรถมอเตอร์ไซค์
ส่วนฝั่งซ้ายมือของตลาดลากยาวไปจนสุดถึงด้านหลัง โซนนี้จะเน้นขายกันหลักๆ สองอย่างคือเครื่องปรุงทำอาหาร (มีของอุปโภคแซมมาหน่อยๆ) และพืชผักสวนครัวสดๆ ส่วนแผงเนื้อสัตว์ หมู เห็ด เป็ด ไก่ ไม่สังเกตว่าเห็นมีกัน ฉะนั้นแล้วใครจะมาโซนนี้ ถ้าคุณต้องการผักสดไปประกอบอาหาร พร้อมเครื่องปรุงรสอันหลากหลาย เชิญได้เลยครับ
ส่วนอื่นๆ รอบตลาด ถ้าเป็นโซนฝั่งตรงข้ามกับตลาดด้านหน้า อันนี้ค่อนข้างที่จะคึกคักกันหน่อย เพราะเห็นมีร้านอาหารรถเข็นพอสมควร เหลือจากนี้ก็ไม่มีอะไรพิเศษมาก อยู่ในระดับราบเรียบกันธรรมดา
อ่อ ย่อหน้าเมื่อกี้พูดผิดไปที่บอกว่าธรรมดา จริงๆ แล้วมีหนึ่งอย่างที่ไม่ธรรมดาเหมือนใคร ซึ่งไอ้ที่ว่าไม่ธรรมดานั้น มันคือชื่อของตลาดครับ
แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นชื่อที่ผมเว้นไว้ให้เติมตรงย่อหน้าที่ 6