หลังจากที่พาไปเดินเล่นแถวๆ กาแลไนท์พลาซ่ากันแล้ว ซึ่งคราวนั้นลืมบอกไปว่าฝนมันตก เลยอดเก็บบรรยากาศตลาดอนุสารมาด้วย ฉะนั้น วันนี้ได้ฤกษ์หามยามดี ฟ้าฝนเป็นใจไม่ตกกระหน่ำลงมาใส่หัวจนเปียกปอน ก็ได้เวลามาตามเก็บภาพตลาดอนุสาร ให้มันเสร็จสิ้นครบถ้วนกัน ประเดี๋ยวมันจะรู้สึกเหมือนเกิดรอยแหว่งในชีวิต ว่าเอ๊ะ ส่วนนี้มันหายไปไหนกันนะ
ตลาดอนุสาร สำหรับนักท่องเที่ยวต่างถิ่นหาจะมา ถือว่าหากันไม่ยากครับ แค่ขับรถมาแถวถนนช้างคลานก็เป็นอันเจอแล้วอยู่ฝั่งด้านซ้ายมือ (สังเกตกันเอา) และอย่าถามผมนะว่าถนนช้างคลานมันอยู่ส่วนไหนในเชียงใหม่ เอาเป็นว่าตรงนี้ คุณๆ ต้องไปค้นหากันเอาเองนะครับ ถือซะว่าช่วยๆ กันทำมาหากิน
ตลาดแห่งนี้ ดูๆไป ก็ไม่ต่างอะไรกับกาแลไนท์พลาซ่าครับ ซึ่งในความเหมือนนั้น มันก็คือย่านช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สังเกตได้จากสองตาตัวเอง ทั้งฝรั่ง อาตี๋ อาหมวย แอฟริกัน เพียบ ที่ต่างมาเดินซื้อของกันอย่างสบายใจเฉิบ และของที่ได้ขายสำหรับที่นี้ ต้องเน้นย้ำกันเลยว่า ต้องออกแนวพื้นเมืองเท่านั้น
จากหน้าปากประตูทางเข้า (ฝั่งถนนช้างคลาน) ปกติแต่ก่อนเวลาผมไปมักจะเจอเหล่าบรรดาสาวๆประเภทสองมายืนแต่งตัวสวยๆ แสดงความสามารถ สร้างความบันเทิงให้กับคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น แต่ล่าสุดที่ไปมา รู้สึกว่าจะหายกันหมด แถมหลังคาบริเวณขายของตรงตลาดอนุสารก็มีอันต้องหายไปด้วย ก่อนจะปรับเปลี่ยนโฉมใหม่เป็นลานกว้างๆ แทน
สับตีนเข้าไปด้านในเพื่อสำรวจกันจากปากประตู ฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่ขายของฝากจำพวกของกิน และผลไม้ก็มีบางประปราย และลึกไปในสุดๆ จะมีลานจอดรถแบบไม่ฟรีให้บริการกัน (เสียตังค์นั้นแหละเธอ)
จากนั้นพอแหงนมองตรงหน้า ก็จะมีแผงขายของกันเยอะแยะทั้งโคมไฟ เสื้อผ้า ของที่ระลึก งานแฮนด์เมค เครื่องประดับ โดยระหว่างสองข้างทางก็จะมีร้านอาหารและบาร์นั่งดื่มไว้ค่อยบริการกันเพียบ โดยขนาดของตลาดมันจะลากยาวไป จากปากประตูทางเข้าตลาดอนุสาร คือถนนช้างคลานไปจนถึงอีกฝั่งที่เป็นทางออก คือถนนเจริญประเทศ
อ่านถึงตรงนี้แล้วใครยังจินตนาการภาพไม่ออกว่าตลาดอนุสารเป็นยังไง ก็ให้จินตนาการไปเลยว่ามันเหมือนกันกับถนนคนเดินท่าแพ แถวหน้าประตูท่าแพนั้นเลย นั้นแหละคล้ายๆกัน ไม่หนีกันมาก จะมีต่างกันก็แค่สถานที่กันเท่านั้นครับ
ถ้าไม่ตะขิดตะขวงใจอะไรมาก หรือไม่อยากไปลำบากถนนคนเดินท่าแพในวันอาทิตย์อันแสนวุ่นวาย ก็แวะมาตลาดอนุสารกันได้ทุกวันในตอนเย็น
ต่างเวลา ต่างสถานที่ แต่ของสินค้านี้ ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่หนักหรอก เชื่อผมเถอะ