หลังจากฝ่าฝนและหมอก (ที่ดูคล้ายๆ กันกับ ภาพยนตร์ The Mist มฤตยูหมอกกินมนุษย์) ตั้งแต่ตอนมาม่อนแจ่มจนตอนมาถึง ขากลับพระอาทิตย์ยังพอจะทอแสงร่ำไรในช่วงหลังฝน ให้คนอย่างผมมีโอกาสได้แวะไปยัง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยบ้าง เพื่อเป็นการส่งท้ายเพราะไหนๆ ก็มากันแล้ว ใครคนนี้เลยไม่อยากจะเสียเที่ยวกันซักเท่าไรนัก
ผมขับรถกลับออกมายังเส้นทางเดิมที่ผ่านมาเมื่อกี้ เพื่อมุ่งหน้ามายัง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ในช่วงเย็นๆ (เย็นทั้งเวลาและอากาศ) ขับถึงเจอป้ายบอกทางเข้า ก็ไม่รีรอชักช้า ขับรถเข้าไปจอดกันบริเวณด้านในแบบไม่เคอะเขิน ประหนึ่งเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกันอยู่ที่นั้นกันเลยทีเดียว
ความเงียบเหงา คือสิ่งแรกเข้ามาทักทายหลังจากดับเครื่องรถมอเตอร์ไซค์ ผมพยายามกวาดสายตามองหาใครซักคน เพื่อต้องซักถามหาข้อมูลบางอย่างแต่จนแล้วจนรอด ก็พบแต่ความว่างเปล่า เข้าครอบงำ ฉะนั้น งานนี้ก็เลยต้องเดินลุยกันดุ่ยๆ แบบนักเลงลูกทุ่งกันเลย
จากข้อมูลที่ค้นพบ บอกว่า ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2517 ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร โดยแต่ก่อนได้มีปัญหาชาวเขาทำลายป่าเพื่อเปิดที่ทำกินใหม่ ปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอย ต่อมาจึงตั้งเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพของเกษตรกร โดยแนะนำพืชเศรษฐกิจใหม่ๆทดแทนการปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอย ยกระดับความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น
พืชเกษตรกรรมที่เป็นพืชเด่น ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ที่ทำรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นจำนวนมาก มีด้วยกันหลายอย่าง ซึ่งถ้าแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ก็จะมี 1. พืชผัก ได้แก่ โกโบ้ ผักกาดหางหงส์ ผักกาดหอมห่อ ฯลฯ 2.ไม้ผล ได้แก่ ท้อ กาแฟ พลัมและบ๊วย 3.ไม้ตัดดอก ได้แก่ แกลดิโอลัส และสแตติสเพอริซอาย 4.ดอกไม้แห้ง
ในส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยนั้น จะมีเส้นทางศึกษาเกษตรภายในศูนย์ฯ เส้นทางชมแปลงปลูกผักและแปลงผลไม้เมืองหนาวของชาวเขา เส้นทางศึกษาธรรมชาติ อย่างเส้นทางศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย-จุดชมวิวม่อนล่อง เส้นทางศูนย์พัฒนาโครงการหลวง-จุดชมวิวม่อนดอย เส้นทางน้ำตกตาดหมอก-น้ำตกวังฮาง-ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เป็นต้น นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีของฝากจำหน่าย อย่างผักและผลไม้ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยผลิตภัณฑ์แปรรูป อาทิ ไวน์แครอท ไวน์บีทรูท กันอีกด้วย สำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 053- 939173 , 081-9509767
สุดท้ายนี้ ถึงคราวต้องจบกันแล้วจริงๆ กับทริปดังกล่าว ไว้งวดหน้า ผมจะพาไปเที่ยวที่ไหน ไว้ค่อยติดตามกันครับ คุณผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน
สวัสดี. (จบแบบหนังไทยสมัยก่อน)