ใครจะถือว่ามันซ้ำในเนื้อหาบนเว็บก็คงไม่ผิด ในเมื่อธีมหลักของมันก็แค่เป็นการท่องเที่ยวจากตีนดอยสุเทพ ไปยังขุนช่างเคี่ยนแล้วมาจบตรงห้วยตึงเฒ่า
แต่ในเนื้อหาที่ซ้ำซากบนความเป็นทางการที่สามารถหาอ่านได้ตามเว็บทั่วๆ รวมทั้งเว็บนี้ ผมเลยอยากจะขอฉีกหนีมาเล่าในอีกแบบนึง ประหนึ่งเพื่อนสนิทมานั่งล้อมวงสนทนารอบกองไฟในยามดึก
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อซัก 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อตัวเองนึกอยากขับรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยปุยกันอีกครั้ง เป้าหมายช่วงนี้ของผมมันคือขุนช่างเคี่ยน กับการสัมผัสความงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ว่าที่ดอกไม้ที่ได้รับฉายาว่า “ซากุระเมืองไทย”
หลังจากทราบข่าวว่ากำลังบานสะพรั่งบนนั้น ก็กะเกณฑ์ไว้ดิบดีว่าออกจาห้องซักสายๆ คงเหมาะเพื่อขับรถกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ
แต่ในความเรื่อยๆ มันก็มาสะดุดเอาเมื่อถึงสามแยกที่จะไปบ้านม้งขุนช่างเคี่ยนกับบ้านม้งดอยปุย เมื่อบริเวณนั้นรถดันมาติดครับ ติดไม่ติดธรรมดา แต่ว่าติดกันแบบยาวเป็น 2 กิโล
ต้นเหตุมาจากจำนวนคนที่แห่ขึ้นไปชมกันเยอะยังกับไปทอดผ้าป่าสามัคคี บวกกับถนนก็แคบเป็นเลนเดียว อาหารรถติดก็เลยก่อกำเนิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไอ้คนจะขึ้นไปยังขุนช่างเคี่ยนก็จะไป ไอ้คนจะลงมาก็ลงมา ทั้งมอเตอร์ไซค์รถยนต์ติดกันวุ่นวายพอดู สุดท้ายเลยต้องมีคนมาอาสาเคลียร์ทางจราจรให้ว่าใครควรไปก่อนไปหลังช่วงไหนของถนน
30 นาทีเห็นจะได้ที่ตัวเองติดแหง่กตรงนั้น ด้วยความรำคาญที่ขี้เกียจรอเลยเลี้ยวรถหนีลงมาเที่ยวมันวัดดอยปุยซะเลย ขากลับมาคาดว่าคงจะไม่ติดกันแล้ว
เส้นทางมาวัดดอยปุยน่าจะเกือบๆ 2 กิโลเมตร ภายในวัดไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมาก ดีหน่อยที่มีวิวให้ชมแก้ขัดไปพลางๆ ก่อนขึ้นไปยังขุนช่างเคี่ยน กับน้องแมววัดหลายตัวที่เดินวนไปวนมา
20 นาทีหนีจากตรงนี้ คิดว่ารถคงหายติด เลยพาตัวเองมุ่งหน้าสู่ขุนช่างเคี่ยนต่อ แต่ก่อนจะไปถึงต้องแวะจุดชมวิวระหว่างทางหน่อย จำได้เคยมาเมื่อประมาณซัก 1 ปีที่แล้ว ตรงจุดนี้วิวค่อนข้างสวยดี
ที่แตกต่างจากที่มาครานั้น เป็นจำนวนคนที่มาชมวิวจุดนี้เยอะขึ้นจนชาวม้งขนเอาอาหารขึ้นมาขายให้แก่นักท่องเที่ยว ช่วงนั้นผมหิวๆ เลยซัดขนมปังปิ้งทาเนยไป 2 แผ่น รสชาติดีกว่าเลียเสาไฟฟ้า ก่อนจะออกเดินทางต่อเลยแวะถ่ายรูปนกแก้วเล่นซักหน่อยเห็นมันน่ารักดี
ไว้มาต่อตอน 2 ครับ