ไม่น่าเชื่อว่าเส้นทางมาวัดแห่งนี้มันจะยาวนานกว่าที่ผมคิดเอาไว้แต่ที่แรก ไอ้เรื่องความลำบากอะไรนั้น ถือว่าไม่เท่าไร่ แต่ความยาวไกล ทำไมมันเหมือนน๊านนานกว่าจะถึง
ผมค่อยๆ ขับรถบิดขึ้นเขาไปผ่านหลายโค้ง ทางมีลาดชันบางตามประสาแนวเขา แต่ไม่ค่อยอันตราย ระหว่างนานๆ มีรถสวนมาที สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไม้ขึ้นหนา เป็นป่าที่เต็มไปด้วยความชุ่มชื่นของไอฝน หลังพระพิรุณหยุดลงไปแล้ว
หลังจากผ่านโค้งมานักต่อนัก ก่อนถึงตัววัดพระพุทธบาทสี่รอย เส้นทางจะผ่านหมู่บ้านเล็กๆ และมีถนนคอยนำทางลงมายังตัววัด ถนนหลังฝนตกมีลื่นบ้างในบ้างช่วง เพราะเป็นลูกรัง (โดยเฉพาะตรงทางเข้าวัด) คาดว่าที่เป็นเช่นนั้น เพราะการก่อสร้างปรับปรุงถนน
มาถึงตัววัดสิ่งที่ทักทายตรงหน้าก่อนใคร คือซุ้มประตู ที่กำลังก่อสร้างไปแล้วเกือบๆ 50 เปอร์เซ็นต์ ถัดจากซุ้มประตูไปจะเป็นลานขนาดกว้างเอาไว้จอดรถ โดยมีฝั่งทางด้านซ้ายมือเป็นร้านอาหาร ใกล้ๆ กันนั้นมีที่ขายดอกไม้บูชาเอาไว้ไหว้พระ
เดินเข้ามาด้านในตรงทางขึ้นบันไดเพื่อมุ่งหน้าไปยังพระพุทธบาทสี่รอย จากจุดนี้ระยะทางรวมๆ 200 เมตรด้วยกัน ก็เป็นอันที่จุดหมายของเรา
พระพุทธบาทสี่รอย ที่ถือว่าเป็นพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งรอยพระพุทธบาทสี่รอยนั้น จะประกอบด้วย รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรกเป็นรอยใหญ่ยาว 12 ศอก รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่สอง ยาว 9 ศอก รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะเป็นรอยที่สาม ยาว 7 ศอก และรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ เป็นรอยที่สี่ รอยเล็กที่สุด ยาว 4 ศอก
จากตำนานวัดพระพุทธบาทสี่รอยเล่าว่า เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ได้เสด็จจาริกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจันตประเทศ ( ประเทศไทยปัจจุบัน ) จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศชื่อ เขาเวภารบรรพตซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์และได้ แวะฉันจังหันอยู่บนเขาเวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จขณะประทับอยู่ที่นั้นก็ได้ทราบด้วยญาณ สมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ได้มีรอย พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินใหญ่ คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระ พุทธบาทแห่งพระ พุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ พระพุทธเจ้ากัสสปะ อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลายมีพระสารีบุตรเป็นประธาน เมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่าพระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด พระพุทธองค์ตอบว่า ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้ แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ที่ ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ทุกๆ พระองค์ และแม้นว่าพระศรีอาริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ และ จักรประทับรอยพระบาทสี่รอยนี้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว ( คือ ประทับลบทั้งสี่รอยให้เหลือรอยเดียว ) เมื่อพระพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ จึงกําเนิดเป็นพระพุทธบาทสี่รอย
นอกจากไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ คือพระพุทธบาทสี่รอยแล้ว ในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ซึ่งจะมีอะไรอีกบ้างนั้น ไว้มาต่อกันให้จบกับทริปแสวงบุญครั้งนี้ครับ