เรื่องขี้บ่นของคนกินอาหาร น่าจะเป็นของคู่กันไม่ต่างจากปาท่องโก๋ กับน้ำเต้าหู้นะครับ
ขี้บ่นในที่นี้ก็คือ อร่อยก็บ่น ไม่อร่อยก็บ่น ได้น้อยก็บ่น ได้เยอะก็บ่น แพงก็บ่น ถูกก็บ่น ร้านอยู่ไกลก็บ่น ร้านอยู่ใกล้ก็บ่น เรียกได้ว่า สามารถหาเรื่องมาบ่นกันได้ตลอด (ถ้ากูนึกอยากจะบ่นกันขึ้นมา ใครจะทำไม)
ผมก็เป็นหนึ่งในมนุษย์ขี้บ่นที่ว่า จะว่าไปแล้ว จริงๆ ไอ้การขี้บ่นเนี่ย มันก็ใช่ว่าจะเลวร้ายกันซะทีเดียวนะครับ ใครเป็นคนชอบบ่นจะรู้เลยว่า การบ่นมันช่วยให้เราสบายใจขึ้น มันเหมือนการปลดปล่อยความอึดอัดที่มีในตัวออกไป ดูๆ ไปแล้วก็ไม่ต่างจากการปลดทุกข์ (อ้าว!)
เหมือนๆ กับตอนนี้ที่ผมก็กำลังบ่นอยู่
บ่นตั้งแต่ยังไม่พิมพ์ และก่อนไปกินบัวลอย ไข่หวาน เจ๊ซ้วง ตรงตลาดโต้รุ่งช้างเผือกแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยไปกินทับทิมกรอบของเจ๊แก ปรากฏว่าราคามันไม่สมเหตุสมผลกับปริมาณทับทิมกรอบที่ถูกบรรจุลงมาในถ้วยให้ซด ส่วนในเรื่องของรสชาติ ถือว่าพอฝากผีฝากไข้
แล้วบัวลอย ไข่หวาน อันเลื่องชื่อของเจ๊แกล่ะ
(กำลังโซโล่ถึง) อย่างที่บอก ผมบ่นและทำใจล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่า ปริมาณคงไม่หนีกันมากกับครานั้นที่ไปซัดทับทิมกรอบ แต่ทั้งหมดที่บ่นนั้นในเรื่องปริมาณและราคา (ที่ค่อนข้างจะแพงกว่าเจ้าอื่นๆ) ผมจะให้อภัยด้วยประโยคด้วยสั้นๆ “ถ้ามันอร่อยจริงๆ จนกูกินแล้วไม่เสียดายเงิน”
ผลการทดสอบ ตอบแบบเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝั่งไหน มันก็อร่อยกันจริงๆ อย่างที่ชาวบ้านเขาว่านั้นแหละ ความนุ่มของแป้งบัวลอยที่ทำกันสดๆ เข้าขากันเป็นอย่างดีกับความหอมมันของกะทิ มะพร้าวอ่อน รสชาติบัวลอยรสหวานพอเหมาะ ไม่เลี่ยนกันจนเกินไป
กรณีใครติดใจและกระเพาะใหญ่ ผมแนะนำว่าให้ซัดกันสองถ้วย เพราะถ้วยเดียวไม่อยู่ท้องแน่ ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละ มันได้น้อยกันจริงๆ เมื่อเทียบกับราคา 25 บาท
อย่างอื่นๆ ที่เหลือให้เลือกสั่งมาลอง มีแปะก๊วย ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน รังนก เต้าทึง ทับทิมกรอบ เอาเป็นว่าชอบอะไรอย่างไหนจิ้มเลือกชิมเอา
บัวลอย ไข่หวาน เจ๊ซ้วง ตลาดโต้รุ่งช้างเผือก เปิดให้บริการกันทุกวันตั้งแต่หัวค่ำเป็นต้นไปจนดึก เรื่องโต๊ะที่นั่ง กับที่จอดรถค่อนข้างที่จะหายากกันซักหน่อย ถ้าให้สะดวก ก็แนะนำให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านจะเยี่ยมที่สุด (บวกกับบรรยากาศนั่งกินอยู่ร้านมันไม่ค่อยโสภาสถาพร)
งานนี้ใครเป็นคอบัวลอยไข่หวาน ก็อยากให้ไปลองรสชาติกันดูซักตั้ง!