วัดทรายมูลเมือง

C360_2013-11-29-16-04-35-145

แรกๆ ตอนไปเที่ยววัดทรายมูล (พม่า) แล้วขับรถผ่านมายัง วัดทรายมูลเมือง ผมหลงผิดคิดไปว่าวัดสองแห่งนี้มีพื้นที่เดียวกัน เพราะด้วยขนาดของวัดที่ตั้งอยู่ใกล้กัน ไหนจะชื่อวัดที่คล้ายๆ กันอีก ที่ไหนได้มันคนล่ะที่กันเลยนี่หว่า ฮ่าๆๆ

ขับมอเตอร์ไซค์มาจากแจ่งขะต๊ำ ฝั่งคูเมืองด้านในเลยมาซักหน่อย ก็เป็นอันเจอวัดอยู่ทางด้านซ้ายมือตรงยูเทิร์นแรก โดยปากประตูทางเข้าตรงหัวเสามีรูปสิงห์ปั้นสองตัวสีทองอร่ามยืนเด่นสง่า

C360_2013-11-29-15-59-12-592

C360_2013-11-29-15-59-46-788

เข้ามาถึงฝั่งด้านในบริเวณวัด พื้นที่โดยยรอบไม่ถือว่ากว้างขวางมาก ด้านหน้าฝั่งซ้ายมือเป็นวิหาร ด้านขวามือเป็นพระอุโบสถ

C360_2013-11-29-16-01-41-453

C360_2013-11-29-16-00-14-476

หะแรกกะจะเดินไปสำรวจด้านในวิหาร แต่พอไปถึงปากประตุแล้วเงยหน้ามอง ก็ถึงรู้ว่าประตูวิหารปิดห้ามไม่ให้เข้าไป สุดท้ายก็เลยได้แต่ด่อมๆ มองๆ กันภายนอกวิหาร ที่ตรงทางขึ้นบันไดมี ท้าวเวสสุวรรณ ยืนเด่นสง่าอย่างน่าเกรงขามยิ่งนัก

C360_2013-11-29-16-02-01-979

กล่าวถึงความเชื่อเกี่ยวกับ ท้าวเวสสุวรรณ กันซักหน่อย คนไทยสมัยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็กเพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควานแก่เด็ก ผู้ใดมีอาชีพสัปเหร่อ หรือมีอาชีพประหารชีวิตนักโทษ ก็มักพกพารูปท้าวเวสสุวรรณ สำหรับคล้องคอเพื่อเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันภัยจากวิญญาณร้ายที่จะเข้ามาเบียดเบียน ส่วนอีกหนึ่งภาพลักษณ์ของท้าวเวสสุวรรณ ที่ปรากฏในรูปของชายพุงพลุ้ย ก็เป็นที่เคารพนับถือ ในความเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความร่ำรวย

C360_2013-11-29-16-05-23-694

เดินไปสำรวจกันถึงฝั่งด้านหลัง จะปรากฏขององค์เจดีย์ที่กำลังจะบูรณะเสร็จเรียบร้อย ส่วนที่อยู่ใกล้ๆ กันกับเจดีย์ เป็นศาลากุฏิเจ้าอาวาสวัด ที่แลดูเก่าคร่ำครึ โดยชั้นบนทำจากไม้สไตล์ทรงล้านนาไทย

C360_2013-11-29-16-05-44-686

และเมื่อไม่นานมานี้ ซักครึ่งปี เห็นแว่บๆ ว่ามีข่าวสำรวจคัมภีร์ใบลาน วัดทรายมูลเมือง เพื่อทำการบูรณะและปริวัตรคัมภีร์ใบลานของวัดทรายมูลเมือง เพื่อเป็นฐานข้อมูลท้องถิ่นในการจัดการชุมชนอย่างสร้างสรรค์ และเป็นการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์วัฒนธรรมท้องถิ่น ส่วนข้อมูลตรงนี้ไอ้ผมก็ไม่อาจทราบแน่ชัดว่าไปถึงไหนกันแล้ว

C360_2013-11-29-16-03-49-088

ส่วนประวัติความเป็นมาของวัด ก็เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 2030 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.2450 เดิมวัดนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราช อันทรงเป็นผู้ครองนครเชียงใหม่ ก่อนที่จะได้ชื่อวัดทรายมูลเมือง เคยเป็นอารามมาก่อน มีชื่อว่า “อารามบ้านปะ” อาจเป็นเพราะสายน้ำที่ไหลมาจากดอยสุเทพแล้วมาประจบกันที่นี่ ทำให้เกิดเป็นหนองน้ำ ณ จุดนี้จึงได้ชื่อว่า “หนองทรายมูล”

C360_2013-11-29-16-03-02-103

และอีกประการหนึ่ง ที่จุดนี้อาจมีการขุดเอาดินขึ้นมา เพื่อเอาดินมาปั้นอิฐเพื่อนำไปก่อสร้างกำแพงเมืองชั้นในของนครเชียงใหม่ จนทำให้ที่ตรงนี้กลายเป็นหนองน้ำ เมื่อได้รับวิสุงคามสีมา จึงเรียกว่า “วัดทรายมูล” ครับ