มีโอกาสมากินข้าวซอยเสมอใจฟ้าฮ่าม เลยถือโอกาสเหมาะ แวะมาเยี่ยมชมวัดฟ้าฮ่าม ซึ่งอยู่ติดๆ กัน กับร้านข้าวซอยเสมอใจ
เข้าไปด้านในวัด จะสังเกตเห็นนะครับว่า มีรถยนต์หลายคันแวะมาจอดกันในนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือลูกค้าร้านข้าวซอยเสมอใจนั้นแหละ
ตามป้ายประวัติวัด บอกไว้ว่า “พระเจ้าแสนเมืองมา” พระเจ้าลักขบุราคม กษัตริย์ราชวงค์มังราย(เม็งราย) องค์ที่ 9 เมื่อพระชมมายุได้ 15 พรรษา ในเวลานั้น พระเจ้าพรหม พระมาตุลาของพระองค์ ครองเมืองเชียงราย ได้ยกทัพมาตีนพบุรีศรีนครพิงค์ (เชียงใหม่) เพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์ แต่ถูกทัพหลวงตีพ่าย จึงขอความช่วยเหลือจาก พระอินทรราชากษัริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา แต่ก็ถูกตีพ่ายไปอีก
ต่อมาอีกไม่นาน พระเจ้าพรหม ก็เสด็จมานพบุรีศรีนครพิงค์อีก เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ โดยนำพระพุทธสิพิงค์ (พระสิงห์) องค์สำคัญคู่บ้านคู่เมือง มาจากเมืองกำแพงเพชร ประมาณ พ.ศ.1933 (พงศาวดารโยนก) ก่อนจะอัญเชิญไปไว้ที่เชียงราย ใน พ.ศ.1934 นำมาถวายพระเจ้าแสนเมืองมา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ โดยอัญเชิญจากเชียงรายทางลำน้ำกก แล้วมาขึ้นที่สบฝางกุสะนคร (เมืองฝาง) จากนั้นอัญเชิญขึ้นหลังช้างไปเชียงดาว เพื่อล่องเรือตามเส้นทางลำน้ำแม่ระมิงค์ (แม่ปิง) ครั้นถึงนพบุรีศรีนครพิงค์แล้ว อัญเชิญขึ้นที่ท่าวังสิงห์คำ เหนือท่าเจดีย์งามประมาณ 50 ว่า แต่เกิดเหตุการณ์ปาฏิหารย์ขององค์พระพุทธสิหิงค์ ปรากฏว่า ท้องฟ้าที่สว่างก็มืดลง และ มีพระรัศมีจากองค์พระพุทธสิหิงค์ พุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นลำแสงสีทองดั่งรุ้งกินน้ำ ยาวประมาณ 2,000 วา และ สิ้นสุดที่แห่งหนึ่ง ท้องฟ้าที่นั้นก็สว่าง ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
พระเจ้าแสนเมืองมา จึงโปรดเกล้าให้สร้างอารามขึ้น ณ ที่ลำแสงสิ้นสุดนั้นว่า “อารามฟ้าฮ่าม” (วัดฟ้าฮ่าม) หมายถึงฟ้าสวาง-อร่ามเรืองรอง โดยสร้างเมื่อ พ.ศ.1934 (นับเป็นเวลาถึงปัจจุบัน พ.ศ.2556 วัดฟ้าฮ่ามมีอายุได้ 622 ปี) จากนั้น ก็นำพระพุทธสิหิงค์ไปประดิษฐาน ณ.วัดลีเชียงพระ (วัดพระสิงห์) ในปัจจุบัน
นอกจากวัดแห่งนี้จะมีศาสนสถานอันสำคัญ อย่างองค์เจดีย์ พระวิหาร และอุโบสถแล้ว ก็ยังมี ต้นสาละ จากประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นต้นไม้สำคัญต่อองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าใน 2 วาระ โดยประกอบด้วย วาระแรก คือวันที่พระนางสิริมหามายา เสด็จประพาสอุทยานลุมพินีวัน ทรงประชวรพระครรภ์ ได้ประทับอยู่ใต้ต้นสาละ พระหัตถ์หนึ่งจับกิ่งต้นสาละ ประสูตพระราชโอรส ทรงพระนามว่า “สิทถัตถะราชกุมาร” ที่ประเทศอินเดียก่อนพุทธศก 80 ปี
ส่วนวาระสอง ครั้งเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จเมืองกุสินาราเพื่อจะ เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ ใต้ต้นสาละคู่ ก่อนพุทธศก 1 ปี
หลังวัดฟ้าฮ่าม จะติดกับริมแม่น้ำปิง ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิด เขาจะมีบริการให้เช่าเรือคายัค พายเลนในแม่น้ำปิงด้วย ซึ่งน่าจะดูแลโดยสมาคมเรือคายัคที่ไหนซักแห่ง ใครสนใจลองแวะไปถามดูได้ตอนเย็นๆ ซัก 4-5 โมง ส่วนใครหิวก็เชิญเลย ข้าวซอยเสมอใจ ติดข้างวัด จะจัดน้อยจัดหนัก ก็แล้วแต่ศรัทธาท่านเอง…