วัดเชตุพน เป็นวัดโบราณวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ที่สร้างมาหลายร้อยปีมาแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใด ได้ร้างมาเป็นเวลานานจนเหลือแต่ซากที่มีปรากฏให้เห็นอยู่ เช่น ฐานพระอุโบสถ สีมา, ฐานเจดีย์, ฐานวิหาร, แนวกำแพง เป็นต้น จนถึงสมัยพ่อเจ้าอินทวิทยานนท์ เจ้าผู้ครองนครพิงค์เชียงใหม่ จึงได้โปรดให้มีการฟื้นฟูขึ้น
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของอายุวัดร่วมๆ 160 กว่าปี มีเหตุการณ์หลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งเอาที่ผมคัดมาก็จะมีรายละเอียดกันประมาณนี้
ปี พ.ศ. 2428 พระภิกษุคันธา จากวัดฝายหินได้มาเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้รับการสนับสนุนจากเจ้านายฝ่ายเหนือและศรัทธาประชาชนอย่างมากจึงได้ร่วมใจกันสร้างถาวรวัตถุต่างๆให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ขึ้น เช่น กำแพงยาวด้านละ 45 วา กุฏิหลังใหญ่ในระหว่าง พ.ศ.2429 – 2431 ในปี พ.ศ.2439 พ่อเจ้าอินทวิทยานนท์ มีพระราชนุเคราะห์ถวายสมศักดิ์ท่านเป็นสังฆราชที่ 5 แห่งนครเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.2443 โปรดให้นำหอคำใหญ่ไปสร้างเป็นวิหารวัดสวนดอก หอคำหลังเล็กมาสร้างเป็นวิหารเชตุพน ดังที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้
ปี พ.ศ.2449 ท่านสังฆราชที่ 5 (ครูบากันธา) ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ สัญญาบัตรพัดยศจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นพระครูโพธิรังสี และในปี พ.ศ.2457 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ (เป็นรูปที่ 2 ) ต่อจากหลวงพ่อเจ้าคุณพระอภัยสารทวัดฝายหินซึ่งท่านได้มรณภาพลง
ปี พ.ศ. 2478 พระสมุห์อินตา เกสโร จากวัดเชตวัน ตำบลช้างม่อย ได้มาเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้ปรับปรุงพัฒนาวัดเชตุพนทั้งด้านศาสนวัตถุ เช่น โรงเรียนพระปริยัติธรรมที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ และกุฏิหลังใหญ่เป็นต้น พร้อม เปิดสำนักเรียน บาลี-นักธรรม
ปี พ.ศ.2509 เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดส่งพระมหาสุมนธมฺมธโร (นธ.เอก ป.ธ.3) จากวัดพระสิงห์มาเป็นเจ้าอาวาส ทั้งนี้ ท่านได้มาพัฒนาปรับปรุง วัดเชตุพน มากมายหลายด้าน เช่น สร้างศาลาวิกรมคณานุสรณ์ บูรณพระวิหาร ปรับปรุงบริเวณวัด ก่อกำแพงทั้ง 4 ด้านให้สวยงาม สร้างอาคารเรียนเอนกประสงค์ที่สร้างค้างไว้นี้ แม้การก่อสร้างยังไม่สำเร็จตามโครงการ
สำหรับสิ่งที่น่าสนใจในวัด ที่ดูโดดเด่นสวยงาม เป็นพระเจดีย์ที่อยู่ด้านหลังพระวิหารข้างพระอุโบสถ ลักษณะค่อนข้างที่จะแปลกตากว่าเจดีย์วัดอื่นๆ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของวัดเชตุพน
แต่ที่ผมคิดว่าน่าจะจำได้ดีกว่าพระเจดีย์คงเป็นบรรยากาศในวัดเชตุพน ที่มีทั้งสามเณรและเด็กนักเรียนเยอะแยะ เนื่องจากวัดแห่งนี้มีโรงเรียนวัดเชตุพนวางตัวอยู่ด้านในด้วย
นับได้ว่าวัดเชตุพน เป็นแหล่งเพาะบ่มความรู้ทางโลก และทางธรรมอันสำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่