รู้สึกดีใจทุกครั้งเวลามาเที่ยววัดดังกล่าวแล้วมีพิพิธภัณฑ์ หรือศูนย์วัฒนธรรมในขุมชน เปิดให้คนภายนอกได้มาเที่ยว ได้มาเรียนรู้ เพื่อศึกษาถึงวิถีชีวิตว่าคนในชุมชนดังกล่าวนั้น มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างไร
อย่างศูนย์วัฒนธรรมไทเขินบ้านสันก้างปลา ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ตามย่อหน้าข้างบน โดยศูนย์วัฒนธรรมไทเขินบ้านสันก้างปลานั้น จะตั้งอยู่ในวัดสันก้างปลา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
ที่ไปที่มาของศูนย์วัฒนธรรมไทเขินบ้านสันก้างปลา เริ่มต้นจากการเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสันก้างปลาของพระครูสิทธิปัญญาภรณ์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 ศรัทธาประชาชนในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นชุมชนชาวไทเขินที่ถูกกวาดต้อนมาจากเชียงตุง ในยุคเก็บผักใส้ซ้า เก็บข้าใส่เมือง ซึ่งมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง บำรุงพระสงฆ์สามเณรด้วยปัจจัย 4 เสมอต้นเสมอปลายแทบหาข้อบกพร่องไม่ได้ซึ่งพระครูสิทธิปัญญาภรณ์ ได้เฝ้าสังเกตุเห็นว่าวิถีชีวิตของชาวบ้านเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาษาพูดของเยาวชน การแต่งกาย การทำบุญในพระพุทธศาสนา สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวท่านเห็นว่าอีกไม่นานวัฒนธรรมใหญ่จะกลืนให้เลือนหายไป นึกถึงความเสียสละของชาวบ้านประกอบกับใจรักงานด้านวัฒนธรรมดั้งเดิมเป็นพื้นฐานเดิมอยู่แล้ว จึงนำเอาสิ่งของ เครื่องใช้ในครัวเรือนที่เป็นของเก่าแก่ที่สนองตอบวิถีชีวิตของชาวบ้านในอดีตมาตั้งแสดงไว้ตามห้องรับแขก หอสวดมนต์ เมื่อศรัทธาญาติโยมได้เรียนถามที่มาที่ไปก็จะเล่าให้ฟังว่าตั้งใจจะรวบรวมวัตถุทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ หากมีปัจจัยก็จะก่อสร้างอาคารเพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์วัฒนธรรมไทเขินวัดสันก้างปลา
ในที่สุดจากแนวคิดความฝันกลายเป็นความจริงเมื่อ คุณแม่เทียมจันทร์ นำบุญจิตต์ พร้อมลูกหลานของท่านได้บริจาคปัจจัยจำนวน 200,000 บาท เป็นกองทุนเริ่มต้นหลังจากนั้นชาวบ้านที่รู้ข่าวได้นำปัจจัยบ้าง วัตถุสิ่งของบ้าง เท่าที่จะหามาได้นำมาถวายแก่ทางวัดจนสามารถพัฒนาขึ้นเป็นศูนย์วัฒนธรรมไทเขิน เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมของชุมชนและผู้สนใจทั่วไปมีกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเขินจากต่างอำเภอ ต่างจังหวัด และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นเดินทางมาศึกษาดูงานอยู่โดยตลอด
อนึ่ง พระครูสิทธิปัญญาภรณ์ได้ทุนวิจัยจากสำนักวิจัยและพัฒนา สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อปี พ.ศ. 2547 ให้ศึกษาเรื่อง “ประวัติศาสตร์กลุ่มชาติพันธุ์ไทเขินอำเภอสันกำแพง” เมื่อทำวิจัยเสร็จสิ้นลง ได้แถลงผลการวิจัยต่อคณะกรรมการในกระทรวงวัฒนธรรมและมีโอกาสเข้าร่วมเสนอผลงานในระดับนานาชาติในที่สุดได้ยกระดับให้เป็นศูนย์วัฒนธรรมไทเขิน ภูมิภาคเอเชีย
สำหรับใครที่สนใจเข้าเยี่ยมชม สามารถมาได้ทุกวันที่วัดสันก้างปลากันครับ