นึกถึงฤดูหนาวที่ เชียงใหม่ ทีไร ต่อมอยากเที่ยวก็กระตุก ชวนให้อยากมาสัมผัสลมหนาวที่เมืองใหญ่ท่ามกลางหุบเขานี่เสียเหลือเกิน ยิ่งถ้าได้ไปพิชิตยอดดอยสักลูก ไปกันเป็นกลุ่มเพื่อนฝูง หรือแบบครอบครัว หรือแม้กระทั่งกับคนรู้ใจก็น่าสนุกที่สุด โดยเฉพาะจุดหมายปลายทางที่จะไปครั้งนี้ แม้จะต้องนั่งรถหรือขับรถไกลหน่อย แต่ก็โครตคุ้ม เช้าตรู่ได้เฝ้าดูทะเลหมอกและแสงพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ ช่วงสายได้ชมนาขั้นบันได ชมไร่ชา และไร่สตอเบอร์รี่สวยงามจับใจ ยามค่ำคืนได้ผิงไฟเพลิดกับกิจกรรมแค้มปิ้ง ได้ดูดาวสวยงามโรแมนติค ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ที่ดอยอ่างขาง มีความประทับใจให้เลือกสัมผัสได้เยอะจริงๆ
หากต้องการจอง ที่พักอ่างขาง ก็ขอแนะนำเป็น โรงแรม รีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง ขอแนะนำให้จองล่วงหน้านะคะ เพื่อการเที่ยวของคุณจะได้ไม่เสียเที่ยว เพราะห้องพักที่นี่ มีไม่เยอะ บริการดีเยี่ยม ห้องพักกว้างขวาง ถึงที่พักแล้วเราก็เตรียมตัวเที่ยวอ่างขางกันเลยดีกว่านะคะ
ดอยอ่างขาง เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแดนลาวติดกับพรมแดนพม่า มีความสูลจากน้ำทะเล 1900 เมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเขาหินปูนและดินดาน อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้ที่นี่สามารถชมทะเลหมอกได้ง่าย และเหมาะกับการปลูกพืชเมืองหนาวด้วยนะคะ ในฤดูหนาวจะหนาวสุดๆ คุณต้องเตรียมเครื่องกันหนาวมาเยอะๆรับรองว่าได้ใช้ครบแน่นอน บนอดยอ่างขาง นอกจากจะมี สถานีวิจัยพืชพื้นเมืองหนาวแห่งแรกของโครงการหลวง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินีนาถ เมื่อปี 2512 และแปลงผัก แปลงดอกไม้ให้ชมแล้ว ยังมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆ ให้คุณได้เยี่ยมชมสัมผัสวิถีชีวิตแบบใกล้ชิดอีกด้วย
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปเริ่มเที่ยวดอยอ่างขางกันเลยดีกว่า ที่แรกที่อยากแนะนำจะเป็น สถานีเกษตรโครงการหลวงดอยอ่างขาง เป็นที่แรกก่อนเลยละกัน ที่นี่เป็นสถานที่ทดลองพันธุ์ไม้เมืองหนาวชนิดต่างๆ ทั้งไม้ดอกและไม้ประดับ และพืชผักผลไม้ แปลงผักและผลไม้ แยกออกเป็นสัดส่วน มีทั้งผักกาดแก้ว ปวยเล้ง เห็ดหอม แครอต แรดิช อาติโชก กะหล่ำม่วง ไม้ดอก เช่น ลลลี่ เยอบีรา กุหลาบ และอีกมากมายหลายสิบชนิด รวมทั้งแอปเปิ้ล สาลี่ บ๊วย กีวี่ฟรุต สตอเบอร์รี่ พลับ ราสเบอร์รี่ อโวคาโด เสาวรส และอื่นๆอีกมากมาย ยังไม่หมดเท่านี้ ที่นี่ยังมีสวนบอนไซ และพรรณกึ่งเมืองร้อนกึ่งหนาว จัดแต่งคล้ายภูเขาขนาดย่อม ประดับด้วยพรรณไม้ท้องถิ่น และพรรณไม้ต่างประเทศหลายชนิด ทั้งสนบอนไซต่างประเทศ ปรงแคระ ต้นหางจระเข้จากทวีปแอฟริกา ต้นแมกโนเลีย เมเปิ้ลหอม แปะก้วย เป็นต้น รวมถึงพืชเฉพาะถิ่นหายาก เช่น เฟริน์ข้าหลวงอ่างขาง ต้นหูเสือหมอคาร์ ให้คุณเลือกชมเลือกถ่ายภาพได้เพลิดเพลินใจ
ใกล้ๆกับสถานีเกษตรโครงการหลวงดอยอ่างขางมี บ้านคุ้ม หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชาวบ้านหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ ทั้ง ม้ง ไทยใหญ่ พม่า จีนฮ่อ ภายในหมู่บ้านมีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก และที่พักบริการแก่นักท่องเที่ยวอีกต่างหาก หากคุณจองที่พักอ่างขางไม่ทัน ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีนะคะ
และสถานที่สวยๆ เป็นสวน 80 ปี ซึ่งมีความสวยงามมากมาย ตามมาดูรูปกันดีกว่า
ห่างสถานีเกษตรฯ ไปประมาณ 7 กิโลเมตร จะเจอ บ้านนอแล เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าปะหล่อง อยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า ตอนนี้หมู่บ้านได้รับการส่งเสริมให้มีการปลูกกุหลาบสีสันสดใสสวยงาม คุณสามารถเข้าไปชมสวนและเลือกซื้อกุหลาบสดๆได้จากสวน แต่ขอแนะนำให้เลือกตอนขาจะกลับดีกว่านะคะ
มาถึงตอนนี้ก็น่าจะหมดโปรแกรมเที่ยววันแรกกันแล้วนะคะ ยามเย็นอากาศจะหนาวสุดๆ ถ้าจะอาบน้ำก็ขอแนะนำให้อาบตั้งแต่บ่ายแก่ๆก็แล้วกัน เว้นแต่ ที่พักอ่างขาง ที่ รีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง มีเครื่องทำน้ำอุ่นมีให้บริการอยู่แล้วค่ะ ยามค่ำคืนบนดอยอ่างขางนอกจากคุณจะได้สนุกสนานกับกิจกรรมแคมป์ไฟ ได้เล่าเรื่องราวรอบกองไฟ สนุกสนานกับการทำอาหารและเพลิดเพลืนกับเครื่องดื่มแล้ว กิจกรรมนอนดูดาวบนดอยอ่างขาง นี่ก็ช่างโรแมนติก อย่าบอกใครเชียว คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ค่อยได้สวีทกัน ก็ไม่ควรพลาดกิจกรรมนี้นะคะ ส่วนคู่รักหวานแหววแม้บรรยากาศรอบข้างอาจจะหนาวเย็น แต่ถ้าได้นั่งดูดาวด้วยกันก็น่าจะทำให้อบอุ่นยิ่งขึ้น ส่วนใครโสดอย่าไปอิจฉาเลย(มันต้องมีใครโสดบ้างละน่า) หาเพื่อนใหม่บนดอยอ่างขาง นั่่งคุยก็สนุกสนานไปอีกแบบ
เข้าสู่วันที่สองตั้งแต่เช้าตรู่ เฝ้าชมทะเลที่สวยงามและวิวพระอาทิตย์ยามเช้าที่สวยงามไม่แพ้ดูดาวตอนกลางคืนเลยนะคะ ช่วงสายหลังจากมื้อเช้าอันแสนอร่อยกันแล้ว ก็ไปเที่ยวกันต่อที่ บ้านขอบด้ง อยู่ห่างจากสถานีเกษตรฯไปประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นชาวบ้านชาวเขาเผ่ามูเชซอดำ เมื่อก่อนชาวบ้านจะปลูกฝิ่นกัน แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาปลูกสตอเบอร์รี่ และไร่ชา
ซึ่งอยู่ที่นี่นอกจากจะได้ชมวิวนาแบบขั้นบันได ไร่สตอเบอร์รี่ ไร่ชา ท่ามกลางวิวของสายหมอกและแสงแดดยามเช้ากัน ถ้าคุณมาพอดีเวลาที่เชาบ้านกำลังเก็บผลสตอเบอร์รี่ และใบชาก็ถือว่าโชคดี เพราะชาวบ้านจะแต่งชุดชาวเขาเผ่าเป็นเอกลักษณ์สวยงาม ได้ชมวิถีชีวิตกันแบบใกล้ชิดและยังได้บันทึกภาพที่น่าประทับใจเป็นของแถมอีกด้วย
สายมาหน่อยสำหรับคนชอบดูนกหรือชอบเล่นชมธรรมชาติสองข้างทาง บนดอยอ่างขางก็มีเส่นทางเดินสัมผัสธรรมชาติให้คุณได้เที่ยวเป็นโปรแกรมปิดท้ายกล่อนกลับได้อีกด้วย
ช่วงปายฝนตกหนาวบนดอยอ่างขางยังมีวิวป่าเปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยให้ชม รวมถึงดอกซากุระเมืองไทยหรือดอกนางพญาเสือโคร่ง หากมาเที่ยวในช่วงดูร้อนก็เหมาะทีจะหลบลมร้อนนอนรับลมเย็นๆชิลๆ ได้ชมความงามของต้นโลว์เนียออกดอกสีม่วงอมขาวบานสะพรั่งเต็มต้น หรือจะเลือกเที่ยวช่วงฤดูฝน อาจจะเดินทางมายากหน่อยแต่ป่าหน้าฝนก็สวยงาม สีเขียวชุ่มฉ่ำสดชื่นไปทั้งดอย เรียกว่าเที่ยวดอยอ่างขางได้ทุกฤดูกาลเลยทีเดียว
**แต่ถ้าให้แนะนำว่ามาพักหน้าหนาวดีที่สุด สวยที่สุด โอเคที่ค่ะ คอนเฟิร์ม
สำหรับ ที่กิน แม้บนดอยอ่างขางจะเป็นที่เที่ยวบนขุนเขาที่ถิว่าค่อนข้างไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ในเรื่องของที่พักและร้านอาหารนั้นไม่เป็นปัญหาเลย จะกินอาหารตามสั่งทั่วไปที่ร้านสโมสรอ่างขาง หรือทานอาหารท้องถิ่นของชาวบ้านเผ่าต่างๆก็น่าสนใจ มีให้เลือกได้ตามใจชอบ สำหรับคอกาแฟ แนะนำที่ร้านอาหารสโมสรอ่างขางก็มีซุ้มกาแฟให้บริการคุณ ได้จิบกาแฟอุ่นๆทานเค้กอร่อยๆ ท่ามกลางวิวสวนไม้ดอกไม้ประดับที่ร่มรื่นสวยงามและสายลมหนาวช่างน่าสุขใจดีแท้เอย
สำหรับ ที่พักอ่างข่าง แล้ว ที่ รีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง เป็นที่พักของเอกชนซึ่งเหมาะสำหรับคนรักความสะดวกสบาย แต่ใกล้ชิดธรรมชาติ สายลมหนาว และมีระเบียงให้ชมดาวยามค่ำคืนที่สวยงามและโรแมนติกเป็นอย่างมาก