ทุกวันนี้เห็นร้านอาหารหลายเจ้าหัวคิดฉลาดขึ้น รู้จักหยิบเอาสิ่งของธรรมดามาทำให้มันดูดี แปลกใหม่ เชิญชวนให้ผู้คนสนใจที่จะมาลิ้มลองว่า “เฮ้ย เมนูนี้มันสะเด่ากันจริงๆ นะ”
อย่างที่ผมเจอมาล่าสุดกันเลยกับร้าน “ฮัทมาม่า ปากระเบิด” โอ้ว แค่ชื่อร้าน ก็ชวนสับตีนย่างก้าวเข้าไปทำความรู้จักกันแล้ว
ฮัทมาม่า ปากระเบิด ที่ผมว่าเป็นสาขาที่ 17 ครับ (ริมปิง – ค่ายกาวิละ) บนถนนเส้นเชียงใหม่ – ลำพูน ถ้ามุ่งหน้ามาจากสะพานนวรัฐไปยังลำพูน เลยขัวเหล็กมาซักหน่อย ร้านจะอยู่ฝั่งทางด้านซ้ายมือ หาเจอกันได้ไม่ยาก
บรรยากาศภายในร้าน ปลอดโปร่ง กว้างขวางดี มีโต๊ะที่ให้เลือกนั่งเยอะ และก็แน่นอนมา “ฮัทมาม่า ปากระเบิด” ถ้าไม่กินมาม่าเราจะมาทำห่าอะไรใช่มั้ยล่ะครับ ฮ่าๆๆ
เมนูมาม่าที่นี้จะถูกแบ่งออกเป็นระดับยังกับโรงเรียน โดยจะเริ่มจากระดับอนุบาล อนุบาล+ ประถม ม.ต้น ม.ปลาย มหา’ลัย วัยทำงาน โดยลำดับชั้นเรียนที่นำถูกมาเรียง จะเรียงไปตามความเผ็ดของเมนูมาม่าที่จะนำมาปรุงรส ซึ่งมันก็จะเริ่มจากไม่เผ็ด เผ็ดนิดๆ เผ็ดน้อย เผ็ดกลาง เผ็ดมาก เผ็ดโคตรๆ ฯลฯ ราคาต่อชามจะอยู่ที่ 35 บาท มีให้เลือกแบบรสหมูสับ และน้ำข้นนมสด กรณีสั่งแบบพิเศษเส้น พิเศษเครื่อง ชามละ 40 บาท ถ้าพิเศษเส้น+เครื่อง 45 บาท และพิเศษ 2 ซอง อันนี้ 50 บาทครับ
มาว่ากันถึงรสชาติ หน้าตาในชามนี้เป็นพิเศษเครื่องน้ำข้นนมสด ในชามมาม่าถูกวัตถุดิบหลายอย่างจับโยนใส่ ไล่ไปตั้งแต่ลูกชิ้นปลา คอกเทล โบโลน่า มีปลาหมึกแห้งหั่นเป็นเส้นๆ โรยลงไป น้ำซุปผมสั่งแบบมัธยม รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เผ็ดพอตัว ฟันธงเหมาสรุปโดยรวมแล้วรสชาติอร่อยในระดับปานกลาง ดีกว่าทำกินที่บ้านหลายขุม ทีเด็ดคงอยู่ที่น้ำซุปที่แหละ ที่ทำให้เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างทำกินที่บ้าน กับตรงดิ่งมากินที่ร้าน
ในส่วนของข้อด้อย น่าจะเป็นวัตถุดิบที่เอามาใส่ในชาม ไม่ใช่ว่ามันไม่ใช่ของดี เพียงแต่ของเหล่านี้ ถ้าเราทำกินที่บ้านเราเอง เราก็สามารถหยิบจับมาใส่มาปรุงแต่งได้ แถมของพวกนี้มันก็หาซื้อได้ง่ายอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเด็กประถมก็ยังสามารถทำได้ ฉะนั้น ถ้าทางร้านเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบกันซักหน่อย ให้มันไม่ดูสำเร็จรูป (หมายถึงใช้ฝีมือเยอะกว่านี้) น่าจะเข้าท่ากว่าเดิมอีกเยอะ
ฮัทมาม่า ปากระเบิด สาขาที่ 17 (ริมปิง – ค่ายกาวิละ) เปิดให้บริการกันทุกวัน และเปิดกันจนดึกดื่นเที่ยงคืน ใครถ้าไม่ตะขิดตะขวงใจในส่วนข้อด้อยและชื่นชอบในส่วนของข้อดี ก็ลองแวะไปชิมกันครับ รสชาติเป็นยังไง ปากท่านเท่านั้นแหละจะเป็นผู้ตัดสิน
ตัดสินว่า “อร่อย” หรือ “ไม่อร่อย”