ใครที่อยู่เชียงใหม่และช่างสังเกตหน่อยจะรู้เลยว่า เวลาจะจัดงานเทศกาลอะไรซักอย่างในเชิงของการท่องเที่ยว ส่วนใหญ่มักจะจัดกันที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ โดยเลือกเป็นวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์
ด้วยทำเลที่ตั้งประหนึ่งจุดศูนย์กลางในคูเมือง ประกอบกับวันอาทิตย์ทุกสัปดาห์จะมีถนนคนเดินตรงประตูท่าแพให้ได้เที่ยว บริเวณดังกล่าวจึงถูกใช้งานกันอยู่เป็นประจำ จนบางทีเดือนนึงจัดกันถึงสองสามหน
และครั้งนี้ก็เช่นเคย ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพก็มีการจัดงานเทศกาลให้ชาวบ้านแวะมาชม
“ช้อป ชิม ชม เทศกาลผลไม้ไทย สดจากสวนทั่วไทย” เป็นชื่อของงาน ที่จัดขึ้นกันระหว่างวันที่ 12 – 16 กรกฎาคม โดยงานนี้มีการขนเอาผลไม้มาจำหน่ายให้แก่ชาวบ้านหลากหลายประเภท จากหลายจังหวัด
บรรยากาศในงานก็จะเป็นไปอย่างเรียบง่ายครับ คือ มีเต็นท์ต่างๆ ให้พ่อค้าแม่ค้ามาจับจองขายสินค้ากัน ซึ่งบริเวณตรงส่วนกลางของประตูท่าแพ ก็จะมีผลไม้ขายกันเป็นหลัก ส่วนบริเวณรอบๆ นอกออกไป จะเป็นร้านขายของที่ระลึก ของฝากและเสื้อผ้าซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ต่างจากวันที่มีถนนคนเดิน
นอกจากเต็นท์ขายของต่างๆ แล้ว ในงานยังมีเวทีเอาไว้จัดแสดงความบันเทิง บำเรอคนในงานในยามค่ำคืนกัน เหมือนๆ กับการจัดงานทุกครั้งตรงข่วงประตูท่าแพที่ผ่านมานั่นแหละ แต่อาจจะมีแตกต่างบ้างตรงที่งานแสดงคงเป็นของหน่วยงานอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบความสนุกกันไป
จุดสังเกตอย่างนึงเวลาจัดงานเทศกาลแบบนี้ก็คือการให้ความสำคัญในเรื่องหลักที่น้อยไปพอสมควร อย่างเทศกาลผลไม้ไทย เท่าที่ผมเดินสังเกตดู โอเค มันมีผลไม้หลากประเภทให้ได้ชิม ได้ซื้อกัน แต่ถ้าพูดถึงปริมาณความเยอะในงาน กลับพบว่ามีน้อยกว่าร้านค้าอื่นๆ
อธิบายง่ายๆ คือไอ้ที่ไม่ได้ขายผลไม้และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับงาน มีเยอะกว่า แล้วแบบนี้คนจัดยังกล้าๆ เรียก เทศกาลผลไม้ไทย อยู่เหรอ
ผมว่าคงไม่ใช่ผมคนเดียวแน่ๆ ที่รู้สึก เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้เลยว่า งานอะไรก็ตามที่มาจัดตรงนี้ มันแทบจะถูกกลืนเป็นเนื้อเดียวกันกับถนนคนเดินท่าแพอยู่ตลอด ในทำนองแอบมาขอแจมด้วยคน เพราะแถวนี้คนมันเยอะ
แต่ แหม ไหนๆ จะแจมทั้งที ก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับงานหน่อย ไม่ใช่ไปทีไร ก็ให้ความรู้สึกเหมือนมาถนนคนเดินอยู่เสมอ ที่ถูกเพิ่มเติมด้วยเวทีงานอะไรซักอย่างที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรในการจัด คือถ้าจะทำกันแบบนี้ ผมว่าไม่ต้องทำกันดีกว่าครับ มันเสียเวลา
เช่นกัน ที่ผมก็เสียเวลามาเดินดูผลไม้ แล้วกลับพบว่า กูน่าจะไปตลาดเมืองใหม่ยังจะดีกว่านี้อีกเยอะ