วัดปิยาราม

DSCF5949

การมาเที่ยวเก็บภาพวัดในช่วงหน้าฝนได้พบสัจธรรมอย่างนึงในชีวิต ว่ามนุษย์เราควรทำตัวปรับตามสภาพแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด หรือการดำรงอยู่

บางอย่างในธรรมชาติ เราควบคุมมันไม่ได้ แต่เราก็สามารถปรับตัวได้อย่างไม่เคอะเขิน จะพูดไปก็คงต้องทำตัวให้คล้ายกิ้งก่า หรือจิ้งจกเข้าไว้ก็คงเป็นการดี

เหมือนอย่างฝนตก ตอนมาเที่ยววัด ถ้าไม่อยากเปลี่ยนฝน ก็ต้องกางร่ม /ใส่เสื้อกันฝน /อยู่ในร่ม ทางเลือกมันมีเท่านั้น หรือว่ามีใครสามารถบังคับให้ฝนหยุดตกได้?

กระนั้นเมื่อทราบถึงสัจธรรมแห่งธรรมชาติในข้อนี้ การใช้ชีวิตก็ไม่เห็นต้องมีอะไรยุ่งยาก ส่วนไอ้เรื่องจะลำบากหรือไม่นั้น ต้องดูอย่างอื่นควบคู่กันไป

DSCF5959

ผมบึ่งรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ท่ามกลางฝนโรยปรายลงมานิดๆ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ วัดปิยาราม อันตั้งอยู่เลขที่ 104 บ้านป่าแงะ ถนนโชตนา หมู่ที่ 4 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเนื้อที่ของวัดไม่ใหญ่มากราวๆ 14 ไร่ ด้วยกัน

DSCF5956

ตามประวัติที่พอจะค้นหามาได้บอกว่า สร้างเมื่อ พ.ศ. 2410 เดิมชื่อ วัดสลีดอนชัย (ศรีดอนชัย) มีเจ้าเมืองเชียงใหม่เป็นผู้ริเริ่มสร้างอุทิศให้โอรส ขณะนั้นมีพระพุทธรูปในโพรงของต้นไม้ใหญ่ ชาวบ้านจึงเรียกว่า วัดพระเจ้านั่งโกร๋น (นั่งโพรงไม้) ต่อมาทางราชการเวนคืนที่ชาวบ้าน ย้ายชาวบ้านมาอยู่ทางหน้าวัดและเรียกวัดใหม่ว่าวัดป่าแงะ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2523 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร 8 เมตร

สมัยก่อนตรงซุ้มประตูทางเข้าของวัดปิยาราม เคยมีหน้าบรรณไม้ฉลุ แต่ต่อมาทางวัดคงเอาออก เนื่องจากรถคันใหญ่ๆ ไม่สามารถเข้าวัดได้เพราะติดซุ้มประตู ส่วนปัจจุบันหน้าบรรณไม้ฉลุนั้น ถูกหยิบยกเอามาไว้ตรงศาลา

DSCF5946

เขยิบเข้ามาด้านวัด ด้านหน้าพระวิหาร ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติไว้ ส่วนพระวิหารลักษณะคล้ายรูปทรงทั่วไป เหมือนกับวัดอื่นๆ ในเชียงใหม่ ซึ่งไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมาก น่าเสียดายที่ทางวัดไม่ได้เปิดประตูพระวิหารไว้ ทำให้ผมไม่สามารถไปเก็บภาพองค์พระประธานด้านในมาฝากกัน

DSCF5949

ในส่วนพื้นที่ด้านข้างพระวิหารเป็นที่ตั้งพระสังขจายองค์ใหญ่ ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นสถานที่ตั้งอุโบสถไม้สักเดิมที่ชำรุดไป โดยบริเวณตรงหัวบันไดทางขึ้นไปยังพระสังขจาย มีรูปปั้นมังกรสองตัวขนาดใหญ่และสวยงามท้าสายตาแขกผู้ที่มาเยือน

DSCF5953

จากเรื่องราวทั้งหมดโดยรวมของวัดปิยาราม แม้ความน่าสนใจจะไม่ได้มีอะไรมาก แต่ก็นั้นแหละ อย่างน้อยการได้ออกมาเที่ยววัด พร้อมถ่ายรูป มันก็ดีกว่าการนอนแคะสะดือเล่นที่บ้านกว่าเป็นไหนๆ

แม้ตัวจะเปียกไปด้วยไอฝนตามที