เป็นประจำของทุกปี ที่ในช่วงวันออกพรรษา งานบุญอะไรต่างๆ มากมาย ต่างมีมากันอย่างไม่ขาดสาย ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าวัดเข้าวา ทำบุญ ตักบาตร ปฏิบัติธรรมกัน โดยในจังหวัดเชียงใหม่นั้นบรรยากาศก็จัดว่าคึกคักกันเลยทีเดียว ก็ไล่ไปตั้งแต่การตักบาตรวันเป็งปุ๊ด การทำบุญวัน “ออกหว่า” ของชาวไทใหญ่ งานบุพเปตพลี ตานก๋วยสลากหลวงรวมทั้งงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ กันอีกด้วย
ในส่วนของงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ที่จัดขึ้นกันในวันที่ 9 ตุลาคม 2557 นั้น ก็มีหลากหลายที่ด้วยกัน ทั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง คุ้มหลวงเวียงแก้ว (เรือนจำเก่า) และลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ซึ่งบรรยากาศในการตักบาตรเทโวโรหณะ ผมเลือกมาเก็บภาพที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์กันในตอนเช้าๆ ครับ
งานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ประจำปีนี้ มีนายสุนทร ยามศิริ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นประธานพิธี ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญ และส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและสืบทอดประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไปก่อนในช่วงเวลา 10.00 น. จะมีพิธีสักการพระเจ้าเปิดโลก หน้าหอพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา มีพระภิกษุสามเณรกว่า 300 รูปจาก 134 วัดร่วมงาน และภาคบ่ายจะเป็นการตานก๋วยสลาก ซึ่งปีนี้มีประชาชนจากจังหวัดเชียงราย แจ้งความประสงค์มาร่วมทำบุญเพื่ออุทิศถวายพระญามังรายปฐม
สำหรับการตักบาตรเทโวนั้น หมายถึงการทำบุญตักบาตร ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 เนื่องในโอกาสที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก คำว่า เทโว เรียกกร่อนมาจากคำว่า เทโวโรหณะ (เทว+โอโรหณ) ซึ่งแปลว่า การเสด็จลงจากเทวโลก
ความเดิมมีว่า ในพรรษาที่ 7 นับแต่วันตรัสรู้ พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อเทศน์โปรดพระพุทธมารดา ที่ได้กำเนิดเป็นเทพบุตรอยู่ในชั้นดุสิต จนบรรลุโสดาปัตติผล ครั้นออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 แล้ว จึงเสด็จลงจากเทวโลกที่เมืองสังกัสสนคร ในกาลที่เสด็จลงจากเทวโลก ได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงพรหมโลก เมื่อทรงแลดูข้างล่าง สถานที่นั้นก็มีเนินอันเดียวกันจนถึงอเวจีมหานรก ทรงแลดูทิศใหญ่และทิศเฉียง จักรวาลหลายแสนก็มีเนินเป็นอันเดียวกัน เทวดาก็เห็นพวกมนุษย์ แม้พวกมนุษย์ก็เห็นเทวดา สัตว์นรกก็เห็นมนุษย์และเทวดา ต่างก็เห็นกันเฉพาะหน้าทีเดียว ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงเปล่งฉัพพรรณรังสี ขณะที่พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
รุ่งขึ้นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ชาวเมืองจึงพากันทำบุญตักบาตรเป็นการใหญ่ เพราะไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้ามาถึง 3 เดือน การทำบุญตักบาตรในวันนั้นจึงได้ชื่อว่า ตักบาตรเทโวโรหณะ ต่อมามีการเรียกกร่อนไปเหลือเพียง ตักบาตรเทโว เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น จึงนิยม ตักบาตรเทโว กันจนเป็นประเพณีสืบมาตราบเท่าทุกวันนี้