มีวัดแห่งแรกในเมืองเชียงใหม่ให้อ่านไปแล้ว ก็ต้องมีวัดแห่งที่สอง สาม สี่ ห้า หกจิ้งจกยัดไส้ (ไม่ใช่แล้ว) ให้อ่านกันครับ และครั้งนี้ผมก็จะพาไปรู้จักกับวัดเชียงยืน วัดที่เชื่อกันว่า น่าเป็นวัดแห่งที่สองของเมืองเชียงใหม่ ที่พญามังรายได้สร้างต่อจากวัดแห่งแรกคือวัดเชียงมั่น ซึ่งถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองคู่กับวัดเชียงมั่นมาแต่อดีต
เชียงมั่น เชียงยืน อืมมม ดูใกล้เคียงกันดีครับ เมื่อดูจากชื่อ
วัดเชียงยืน ถ้าจะพูดไป ก็มีให้เรียกกันหลายชื่อครับ ทั้งชื่อวัดฑีฆชีวะวัสสาราม ที่เรียกตาม ตามพงศาวดารโยนก หรืออีกชื่อคือวัดฑีฆาชีวิตสาราม ที่เรียกตามชินกาลมาลีปกรณ์ เอาเป็นว่าเพื่อความสะดวกรูปาก เรียกว่าวัดเชียงยืนกันเนี่ยแหละ ง่ายที่สุดแล้ว แถมชื่อก็ไม่ได้ยาวยืดเยื้ออะไรกันอีกด้วย
ตามประวัติ วัดเชียงยืนได้ปรากฏชื่ออยู่ในชินกาลมาลีปกรณ์ โดยมีบันทึกไว้ว่า พระเมืองแก้วและพระเทวีราชมารดา ได้ทำพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุในพระมหาธาตุเจดีย์ เมื่อปี พ.ศ. 2062
ความสำคัญของวัดแห่งนี้ เมื่อมองตามที่ตั้งของวัด บ่งบอกว่าเป็นทิศมงคลของเมืองเชียงใหม่ โดยเมื่อครั้งเกิดศึกสงครามแม่ทัพจะทำการสักการะพระพุทธสัพพัญญู ก่อนและหลังทำศึกสงคราม เพื่อให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งหลาย และนอกจากนี้ยังเป็นวัดที่เจ้าผู้ครองเมืององค์ใหม่ ถือเป็นประเพณีในการสักการะพระพุทธสัพพัญญู พระประธานศักดิ์สิทธิ์ภายในพระวิหาร ก่อนเข้าสู่พระราชวังทางประตูช้างเผือก โดยเริ่มตั้งแต่สมัยพระไชยเชษฐาธิราช (พระญาอุปปโย) ซึ่งถือเป็นประเพณีสืบทอดกันมาจนถึงสมัยพระเจ้ากาวิละ
ส่วนในวัดก็จะมีศาสนสถานและปูชนียวัตถุที่สำคัญภายในวัดเชียงยืน ประกอบด้วยพระวิหาร เป็นพระวิหารทรงล้านนา ภายในประดิษฐาน พระประธานปางมารวิชัย นามว่า พระพุทธสัพพัญญู ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะ ของเจ้าผู้ครองเมืองและประชาชนมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
พระมหาธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงระฆัง ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม ฐานล่างรูปสี่เหลี่ยมย่อเก็จทั้งสี่มุม ประดับด้วยปูนปั้นรูปสิงห์ มีศาลารายล้อมรอบพระมหาธาตุเจดีย์
พระอุโบสถทรงแปดเหลี่ยม เป็นพระอุโบสถศิลปะแบบพม่า ซึ่งได้รับอิทธิพลทางศิลปะเมื่อครั้งถูกพม่าปกครองในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเมื่อดูจากซุ้มประตูหน้าพระอุโบสถ จะเห็นว่าประดับด้วยปูนปั้นศิลปะพม่า
ใครอยากแวะไปไหว้พระที่วัดเชียงยืน วัดจะตั้งอยู่ที่ ถนนมณีนพรัตน์ ตำบลศรีภูมิ ในตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่ ไหว้พระกันเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมเดินชมศาสนสถาน และปูชนียวัตถุในวัดกันด้วย ก็แหม ไหนๆ มากันถึงที่ ก็ต้องมีความสนุกและความรู้จากการท่องเที่ยววัด กลับติดตัวไปหน่อย