แรกๆ กะจะยัดรวมใส่กันในเรื่องวัดหมื่นสารแหละครับ แต่พอเอาเข้าจริงมองดูข้อมูลแล้ว ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าดีกว่า ยิ่งคนไทย เราๆ ท่านๆ ก็รู้ดีว่าขี้เกียจอ่านอะไรยาวๆ ฉะนั้น เลยทำการแยกย่อยส่วนออกมา เป็นเรื่องเฉพาะของ หอศิลป์สุทฺธจิตฺโต กันอย่างเพียวๆ ไม่เกี่ยวกับใคร และก็มากันในแบบสรุปย่อๆ พอให้อ่านเข้าใจง่าย
หอศิลป์สุทฺธจิตฺโต เป็นหอศิลป์ที่สร้างขึ้นจากดำริของ พระครูสุทธิจิตตาภิรัต เจ้าอาวาสวัดหมื่นสารในปัจจุบัน ร่วมกับคณะกรรมการวัด และคณะศรัทธาวัดหมื่นสารกันครับ โดยจุดประสงค์ในการสร้าง ก็เพื่อเป็นที่ประดิษฐานหุ่นรูปเหมือน 3 ครูบา, เพื่ออนุรักษ์สืบสานศิลปะลายไทยล้านนา ให้เป็นแหล่งศึกษา, เพื่อเป็นสถานที่สักการบูชาแก่สาธุชนทั่วไป, เพื่อเป็นการแสดงกตเวทีคุณต่อบรรพบุรุษช่างเงิน, เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนา, เพื่อส่งเสริมการจ้างงานในชุมชน และเพื่อฝึกหัดช่างรุ่นใหม่ อีกทั้งให้ช่างรุ่นเก่าได้พัฒนาฝีมือ
หอศิลป์ สุทธฺจิตฺโต เป็นหอที่สร้างขึ้นแบบล้านนาประยุกต์ครับ หอจะตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือภายในวัดหมื่นสาร บริเวณประตูทางเข้าวัดด้านซ้ายมือ ด้านหน้าหอมีต้นมะขามเก่าแก่อายุหลายร้อยปีปลูกอยู่ ตัวหอก่ออิฐถือปูน ฉาบ และประดับด้วยโลหะดุนลายทั้งหลัง ยกเว้นส่วนหลังคามุงด้วยกระเบื้องสีอิฐ เพื่อให้กลมกลืนกับสีหลังคาของอาคารสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ภายในวัด
ตัวอาคารหอภายนอก และภายในประดับด้วยงานดุนลายโลหะลวดลายต่างๆ ที่ประยุกต์จากลายพื้นเมืองเอกลักษณ์ลายเครื่องเงินบ้านวัวลายดั้งเดิม ซึ่งเป็นลายหลัก ได้แก่ ลายเวสสันดรชาดก ลายรามเกียรติ ลายเทวดา ลายเทพพนม ลายสิบสองราศี ลายแส้ ลายดอกกระดิน ลายเครือเถา และลายที่สื่อถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาวบ้านวัวลาย ตั้งแต่การอพยพจากเมืองปั่น ลุ่มแม่น้ำคง (สาละวิน) รัฐไทใหญ่ฝั่งประเทศพม่าปัจจุบัน ตลอดจนภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านวัวลายในอดีต
นอกจากนี้ ยังมีการต้องแผ่นโลหะเป็นลวดลายที่แสดงถึงประวัติศาสตร์การสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานการก่อสร้างและทำนุบำรุงถาวรวัตถุในบวรพระพุทธศาสนาอย่างมากมายของครูบาเจ้าศรีวิชัย จนได้รับการยกย่องเป็น “นักบุญแห่งล้านนา” รวมทั้งภาพประวัติศาสตร์การบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ผสมผสานกับภาพเทพเจ้าต่างๆ ที่เป็นเทพแห่งศิลปะและความสำเร็จ ที่บรรดาช่างเงินบ้านวัวลายให้ความนับถือ เช่น พระศิวะ พระพิศเณศ ฯลฯ โดยลวดลายที่ประดับทั่วทั้งศาลาได้นำเอาลายเส้นและลายดอกแบบต่างๆ ที่ปรากฏในเครื่องเงินบ้านวัวลายดั้งเดิมมาตกแต่งเป็นลายประกอบ รวมทั้งลายที่ได้รับแนวคิดมาจากศาสนสถานต่างๆ ในล้านนา
ลายหลักที่ได้นำมาประดับหอศิลป์นี้ ถือเป็นลายชั้นสูงที่ช่างฝีมือจะต้องมีความชำนาญ ถือเป็นลายโบราณที่ทำได้ยากยิ่ง เป็นลายที่ถือเป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุดและยากที่สุด โดยเฉพาะลายนูนสูงรูปคน เทวดา สัตว์หิมพานต์ หรือตัวละครที่ต้องใช้ความประณีต สัดส่วนที่มาตรฐาน ให้รายละเอียดอย่างมายมายและสมจริง เช่น รายละเอียดในส่วนของเสื้อผ้า หน้าตา โดยเฉพาะรูปเหมือน เช่น รูปพระสงฆ์ พระมหากษัตริย์ รูปคน รูปยักษ์ รวมทั้งอารมณ์ของตัวละครที่สะท้อนลงบนงานดุนลาย ให้ปรากฏเป็นเรื่องราวลงบนแผ่นภาพ
ทั้งนี้ ภายในหอศิลป์เป็นที่ประดิษฐานหุ่นขึ้ผึ้งรูปเหมือน 3 ครูบา พระสงฆ์ผู้มีคุณูปการเป็นที่เคารพรักและศรัทธาของชาวบ้านวัวลาย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้แก่ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา, ครูบาอินตา อินทปัญโญ (ครูบาอินต๊ะ) และพระครูโอภาสคณาภิบาล (ครูบาบุญปั่น ปุญญาคโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดหมื่นสาร
ออกมาจากหอศิลป์มายัง บริเวณพื้นที่ด้านนอกทางทิศตะวันออกติดกับกุฏิสงฆ์ “โอภาสคณานุสรณ์” จะมีการดุนลายประดับด้วยภาพพระธาตุประจำปีเกิด จำนวน 12 ภาพ กันอีกด้วย
ถือได้ว่าหอศิลป์สุทฺธจิตฺโตหลังนี้ เป็นหนึ่งในผลงานที่ลูกหลานช่างเงินบ้านวัวลาย มีความภาคภูมิใจที่จะสื่อออกมา ถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ การน้อมสักการะครูบาศรีวิชัย ครูบาอินต๊ะ และครูบาบุญปั๋น ผ่านงานศิลปะที่ช่วยจรรโลงให้คงอยู่สืบไป