วัดหมื่นเงินกอง

C360_2013-10-16-09-57-14-532

วัดหมื่นเงินกอง วัดที่มีความเชื่อว่าถ้าหากได้มีโอกาสมากราบไหว้สักการะ จะทำให้ชีวิตมีเงินมีทองมาเก็บกองกันเยอะๆ

ได้ยินกันแล้ว คงหูผึ่งกันเลยใช่มั้ยล่ะครับ

ก่อนจะหูผึ่งไปมากกว่านี้ มาดูเส้นทางกันก่อน วัดหมื่นเงินกอง จะตั้งอยู่บนถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ จะขับรถไปเอง หรือว่านั่งรถโดยสารไป คงคิดว่าน่าจะหากันได้ไม่ยาก

C360_2013-10-16-09-56-40-715

วัดหมื่นเงินกอง เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงค์มังราย ในรัชกาลของท้าวสองแสนนา หรือ พญากือนา (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.1882 – 1916) ซึ่งหมื่นเงินกองเป็นชื่อของอำมาตย์ท่านหนึ่งในรัชกาลของพญากือนา โดยพระองค์ทรงโปรดให้มหาอำมาตย์หมื่นเงินกอง ผ้ายอดขาว และผ้ายอดลาย พร้อมทั้งบริวาร ไปอาราธนาพระสุมนเถระจากเมืองสุโขทัยมาเผยแพร่ศาสนาในล้านนาเมื่อ พ.ศ.1912 และจากหลักฐานดังกล่าว มหาอำมาตย์หมื่นเงินกอง คงจะสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ตนเอง

C360_2013-10-16-09-58-29-136

C360_2013-10-16-09-58-08-520

สิ่งที่น่าสนใจในวัดก็จะมี พระวิหาร เป็นวิหารทรงพื้นเมืองล้านนา มีลวดลายแกะสลักที่งดงาม ซึ่งตามประวัติการสร้างพระวิหาร บอกไว้ว่า เดิมทีวิหารวัดหมื่นเงินกอง เป็นวิหารโบราณกึ่งตึกกึ่งไม้ จะสร้างมานานเพียงไหน ใครเป็นนายช่าง ไม่ปรากฏประวัติ เข้าใจกันว่ามหาอำมาตย์หมื่นเงินกอง และ ภริยาลูกหลานเป็นผู้สร้างในรัชสมัยพระเจ้ากือนา

C360_2013-10-16-10-08-00-864

ต่อมาในปี พ.ศ.2502 พระครูศีลสังวรเจ้าอาวาสขณะนั้น พร้อมทั้งศรัทธาร่วมกันบูรณะ โดยมีนายสม ฤทธิ์ปัญจะ นายคำแสน อุปวรรณ์ นายพวง สุภาราษฏร์ นายตั๋น แก้วมูล เป็นนายช่าง ใช้เวลาบูรณะ 3 เดือน ก็แล้วเสร็จ

C360_2013-10-16-09-59-28-738

จากนั้นในปี พ.ศ. 2532 พระครูมงคลสิริวงศ์ เจ้าอาวาสพร้อมคณะกรรมการวัดได้พิจารณาเห็นว่า วิหารได้ชำรุดทรุดโทรมลงไปมาก ควรได้รับการบูรณะอย่างใหญ่หลวง ซึ่งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2532 ได้เริ่มประกอบพิธีบูรณะปฏิสังขรณ์ มีนายดวงดี ฤทธิ์ปัญจะ นายบญศรี ณ.เชียงใหม่ นายสุรสิทธิ์ อินต๊ะวัง นายประสิทธิ์ เพียรผล นายหนิด ขันหาญ พร้อมคณะ เป็นนายช่าง

C360_2013-10-16-10-00-11-284

ต่อมามี นางสมศรี วังทองคำ นางตวงรัตน์ โกเมศ ร.อ.อ.สุขุม สิงคาลวณิชย์ นางเหรียญ+นางฉลวย สมบัติสุข นางจันทรา โพธิมา และ คณะศรัทธาทุกคนอุปถัมภ์ ได้ทำพิธียกช่อฟ้า วันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2535 มีพระธรรมปัญญาบดี เจ้าคณะภาค 7 เป็นประธาน ปอยหลวงวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2535 สิ้นทุนทรัพย์ 3,000,000 บาท (สามล้านบาท) รวมเวลาบูรณะ คือ 3 ปี 1 เดือน 27 วัน

C360_2013-10-16-10-02-00-463

C360_2013-10-16-09-56-17-129

ส่วนที่เหลือ พระอุโบสถนั้น มีทรวดทรงพื้นเมือง และพระเจดีย์ มีลักษณะเป็นทรงปราสาท ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมสูง มีเรือนธาตุสี่เหลี่ยมย่อมุม มีซุ้มจรนำ ประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสี่ด้าน องค์ระฆังกลม บัลลังก์ ปล้องไฉน ปลียอด และ ฉัตร

C360_2013-10-16-10-02-31-910

C360_2013-10-16-10-04-04-412

C360_2013-10-16-10-04-40-183

เอาล่ะ ใครอยากมีเงินมีทองมาเก็บมากองไว้เยอะๆ ก็หาโอกาสไปกราบไหว้สักการะที่วัดแห่งนี้ซักครั้งนะครับ และเมื่อพากันรวย แล้วก็อย่าลืมทำบุญบริจาคที่วัดกันด้วย เผื่อชาติหน้าฉันใด เกิดมาจะได้หล่อๆ รวยๆ สวยๆ กันทุกคน ฮ่าๆๆ