ผ่านพ้นไกลไปแล้วนะครับ กับเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2557
ถึงตอนนี้ใครที่เอาชีวิตตัวเองรอดปลอดภัย ไม่เป็นเหยื่อแห่งความประมาทในการใช้รถใช้ถนน ก็ขอยินดีกันด้วยนะครับ
ว่าแล้วเลยอยากหยิบข้อมูลมาฝากกันซักนิด เพราะหลายคนอาจจะยังไม่รู้ กับยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปีนี้ ในระหว่างวันที่ 11 – 16 เมษายน 2557
สรุปตัวเลข 6 วัน ช่วง '7 วันอันตรายสงกรานต์ 57' มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 2,754 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 277 ราย มีผู้บาดเจ็บ 2,926 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 107 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 13 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 118 ราย สาเหตุส่วนใหญ่ ยังคงเป็นเรื่องของ “เมาแล้วขับ”เหมือนเดิม
ส่วนอีกเรื่องที่น่ากลัว และน่าสนใจไม่แพ้กันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลังจากหยิบ นสพ. มาอ่านข่าว เป็นเรื่องของเด็กโดนไฟฟ้าช็อตจนเสียชีวิต ระหว่างเล่นปาร์ตี้โฟม โดยเหตุครั้งนี้ที่เกิดขึ้น เพราะเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วในจุดดังกล่าว
อ่านข่าวเสร็จ ผมเลยรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เลยขึ้นมาทันที เพราะไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย อีกอย่างกะอีแค่จะเอาชีวิตตัวเองให้รอดในช่วงหน้าเทศกาลจากอุบัติเหตุ ก็ลำบากมากพอแล้ว นี่คราวหน้าคงต้องมาระวังเรื่องไฟจะดูดตายห่าคาปาร์ตี้โฟมอีกด้วย
ฉะนั้น สงกรานต์ในอนาคต ถ้าจะเล่น แนะนำว่าเล่นอยู่บ้านดีกว่าครับ
กลับมาที่บรรยากาศของงานสงกรานต์เชียงใหม่ประจำปี 2557 ปีนี้ถ้าให้เทียบกับปีที่แล้ว (เอามาตรฐานตัวเองวัดนี่แหละ) ผมว่าค่อนข้างที่จะซบเซาพอควรในบริเวณรอบๆ คูเมือง ชาวบ้านชาวช่องไม่ค่อยออกมาเล่นน้ำกันเท่าไหร่ แม้ภายในตัวเมืองจะมีกิจกรรมกันหลากหลายที่
อย่างไฮไลต์ของงานที่อยู่ตรงข่วงประตูท่าแพ กิจกรรมนอกจากจะมีการสาดน้ำกันอย่างเย็นช่ำ ในวันที่ผมแว่บๆ ไป (13 เมษา) ช่วงเช้าก็มีการประกวด “แม่ญิงกางจ้อง” ในสภาพจัดกันเองดูกันเองของคนจัด มีกาดหมั้วเอาไว้บริการ เผื่อใครหิวๆ กำลังหาของกิน จากนั้นพอสายๆ มาหน่อยก็มีการแห่พระพุทธสิหิงค์ จากวัดพระสิงห์ ให้ชาวบ้านได้สรงน้ำกัน
ส่วนอื่นๆ หลังจากตระเวนขับรถรอบๆ คูเมือง บรรยากาศไม่หนีกันเท่าไหร่นัก ทั้งนี้เหตุแห่งความซบเซาของสงกรานต์ สันนิษฐานเอาไว้ ผมคิดว่าหลายคนคงจะเบื่อ เมื่อคิดคำนวณแล้วว่าในบริเวณคูเมืองมันไม่น่าเล่น (ยิ่งก่อนหน้านี้มีข่าวคนบ้าลงไปอึในคูเมืองจนโด่งดัง) ก่อนจิ้มไปยังช้อยส์ที่น่าสนใจกว่า อย่างการหนีไปพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวนอกตัวเมือง
อย่างไรเสีย สุดท้ายแล้ว สงกรานต์จะคึกคักหรือไม่ มันก็คงไม่สำคัญไปกว่าเรื่องความปลอดภัยในชีวิตในช่วงเทศกาล รวมทั้งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คงหนีไม่พ้นแก่นแท้ของ “เทศกาลสงกรานต์” ว่ามันคืออะไร
ถ้าเราตอบได้ ก็จะรู้ถึงเหตุผลของความสำคัญในเทศกาลดังกล่าว มากว่าเรื่องรองอื่นๆ ที่ไม่ได้มีสาระ