ตบท้ายด้วยทริปเที่ยว อ.จอมทอง 4 กันที่ยอดดอยสูงสุดแดนสยามกันครับ
จะว่าไปผมเรียงลำดับในทำนอง “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” เพราะเริ่มเขียนจากตีนดอยมาก่อนเรื่อยๆ จนไปถึงจุดไคลแมกซ์ ที่เรียกว่าดีสุดๆ ซึ่งก็คือยอดดอยอินทนนท์
ทริปสุดท้ายนี้ เราจะเริ่มกันที่ยอดดอยอินทนนท์กันก่อนเลย เพื่อไปสัมผัสอากาศหนาว ในระดับขนลุกจนอยากกอดแฟนกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้นๆ ที่ตลอดสองข้างทางเขียวชอุ่มชุ่มชื้น โดยระหว่างทางนั้น ก็จะพบกับพระสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์ที่ 7 องค์สุดท้าย บุคคลที่มีความสำคัญของป่าไม้บนดอยแห่งนี้ และหมุดหลักฐานจุดสูงสุดแดนสยาม พร้อมป้ายแสดงตัวเลขความสูงจากระดับน้ำทะเล ก่อนจะจบเส้นทางกันด้วยการแวะไปซื้อของที่ระลึก และนั่งจิบกาแฟร้อน
จิบกาแฟร้อนหายเหนื่อยซักหน่อย เราจะมาต่อกันที่ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา หรืออ่างกาหลวง เส้นทางนี้มีลักษณะเป็นป่าดิบเขาที่เต็มไปด้วยความชื้นกับละอองน้ำ แถมภายในยังปกคลุมด้วยเมฆที่ลอยพัดผ่านเข้ามาตลอด ซึ่งจากสภาพของป่าดังกล่าว ทำให้เราพบเห็นได้เลยว่าต้นไม้ใหญ่ในบริเวณนั้นจะมีมอสและเฟินขึ้นหุ้มเต็มต้น จนแลดูราวกับป่าในยุคดึกดำบรรพ์
เสร็จจากสองที่นั้นประมาณเที่ยง เราจะมาซัดอาหารให้หายหิวกันตรงปากทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ก่อนจะออกเดินศึกษาธรรมชาติต่อราวๆ สามชั่วโมง โดยเส้นทางจะเริ่มต้นที่ริมถนน กม.42 โดยช่วง 1 กิโลเมตรแรกจะผ่านป่าดิบเขาค่อนข้างทึบ ซึ่งอยู่ต่ำลงมาจากอ่างกา สภาพของพืชพรรณและจึงพอสังเกตเห็นความแตกต่างกันบ้าง เมื่อเข้าสู่ช่วงกิโลเมตรที่ 2 ก็จะทะลุออกทุ่งหญ้าโล่งที่เกิดจากการทำลายสภาพป่าเดิม บริเวณหน้าผาจะพบป่ากึ่งอัลไพน์ มีต้นกุหลาบพันปี และต้นช้ามะยมดอย ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวลมค่อนข้างแรง
จากนั้นก็สับตีนไต่ลงเนินจนเกือบสุดปลายทุ่งหญ้า ไปตามสันเขาที่แคบเท่าๆ กับสันคมมีดจนอันเป็นที่มาของชื่อกิ่วแม่ปาน แล้วจึงกลับเข้าสู่ป่าดิบเขาอีกครั้งและไปสิ้นสุดที่จุดเริ่มต้น
ตบท้ายกันด้วยช่วงเย็นๆ ใกล้ค่ำลงจากดอย เราจะแวะไปที่พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล-พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางภูเขา (เมื่อกี้จากกิ่วแม่ปานสามารถมองเห็นมายัง พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล-พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ได้) พร้อมในนั้นยังมีดอกไม้นานาชนิดให้ได้เยี่ยมชมความงาม ท่ามกลางวิวทิวทัศน์และอากาศที่เย็นสบายดี