ถ้าประชากรชาวจีนไม่มาเที่ยวเชียงใหม่เยอะ บางที Lost In Thailand อาจจะเป็นแค่หนังจีนธรรมดาเรื่องนึงที่ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรกับคนไทย และคนเชียงใหม่ แม้หนังจะโกยรายได้ไปเยอะในแดนมังกรก็ตาม
ว่ากันด้วยตัวหนัง นี่เป็นงาน Comedy ที่พูดถึงเรื่องราวของคนสองคนที่มีจุดหมายต่างกัน แต่ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันแบบจับผลัดจับผลู เพื่อออกเดินทางไปยังเป้าหมายที่วางไว้ซึ่งก็คือ เชียงใหม่
คนแรกคือ “ซู” ไปเชียงใหม่ เพื่อตามตัวเจ้านายให้เซ็นเอกสารทางธุรกิจตัวเอง ส่วนคนหลังคือ “หวัง” ที่มาเที่ยวเมืองไทยโดยเฉพาะ ซึ่งในระหว่างนั้น “ซู” ถูก “โบ” คู่แข่งทางธุรกิจ สะกดรอยตามมาตั้งแต่เมืองจีน เพื่อขัดขวางการเซ็นเอกสาร โดยที่เหลือต่อจากนั้น ก็เป็นการผจญภัยแบบรั่วๆ ของ “ซู” และ “หวัง” ในเชียงใหม่
ธรรมดาของหนังแนวนี้ ตัวละครหลักสองคนย่อมมีบุคลิกแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คนนึงจริงจัง อีกคนตลกๆ ไม่เอาไหน และการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างทาง เป็นเรื่องทำความเข้าใจยากของทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้ายตามสูตร ก็ต้องเคลียร์ปัญหาเพื่อทำความเข้าใจ ที่สำคัญทั้งสองมีปมปัญหาส่วนตัวของตัวเองที่ต้องจัดการให้สิ้นซาก (ซูมีปัญหาเรื่องภรรยากับลูก หวังต้องทำภารกิจในการเที่ยวเมืองไทยให้สำเร็จ)
หนังมาแบบก่ำกึ่งในจุดยืน ที่ไม่แน่ชัดว่าจะมาในแนวไหน จะตลก ผจญภัย หรือดราม่า ก็ไม่สุดซักเรื่อง สุดท้าย คนดูแทบไม่ได้อะไรกลับไปทั้งความบันเทิงและสาระ แม้ตอนจบจะตบท้ายด้วยการสอนให้รู้จักตามหาความหมายของชีวิตก็ตาม
อนึ่ง ในความไม่สุดของบทหนัง (โดยเฉพาะในเรื่องผจญภัย) หนังก็ยังมีพลังมากพอที่จะดึงชาวจีนให้มาเที่ยวเชียงใหม่ เพราะเห็นอะไรหลายๆ อย่างในนั้น
ความสวยงามของวัด สภาพแวดล้อมธรรมชาติ ประเพณีสงกรานต์ การปล่อยโคมไฟ มวยไทย กระเทยไทย (อย่างหลังออกแนวชื่นชมปนจิกกัด) เหล่านี้ เป็นแม่เหล็กชั้นดีในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน
หลายๆ ฉาก ให้คิดอีกที ถ้าหนังเลือกถ่ายมุมดีๆ สวยๆ ของเชียงใหม่ ให้เยอะขึ้น และดีกว่าเดิม ไม่แน่ คนจีนอาจจะมาเที่ยวเชียงใหม่เยอะกว่าเดิมหลายเท่า (ในหนังมีโผล่มาแค่ฉากวัดบุปผาราม วัดแสนฝาง วัดห้วยโป่ง บรรยากาศรอบคูเมือง และในป่าแถวๆ อำเภอแม่ริม? เท่านั้น)
ความดีของหนังที่ไม่ได้ตั้งใจจะขายกันแบบสุดๆ ในด้านการท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ จนส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ให้เติบโตกว่าเดิมหลายเท่า (ทั้งจากสถิติและความรู้สึกเวลาไปไหนมาไหนในตัวเมือง) บ่งบอกว่า Lost In Thailand เปรียบเสมือนไกด์ชั้นดีฝีมือเทพ
เทพในเรื่องการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ไม่พอ ตอนจบหนังยังมีคนสวยระดับเทพๆ มาปรากฏกายให้หนุ่มๆ ได้ครางฮืออีกด้วย (เผลอๆ อาจจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังสำหรับท่านชาย)
Fan Bing Bing ชื่อนี้จำไว้ให้ดี และก็เตรียมคีย์ชื่อไปเสิร์ชหาในกูเกิ้ลได้เลย