การมากินก๋วยเตี๋ยวต้มยำ กรุงสุโขทัย หลังวัดเกตุ แล้วเดินไปใกล้ๆ เพื่อซื้อข้าวเกรียบปากหม้อ และสาคูไส้หมู ของร้านลุงจร น่าจะเป็นสูตรที่เอามาใช้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ส่วนจะกินก่อนหรือหลัง อันนี้แล้วแต่ท่านจะสะดวก
บนถนนเจริญราษฏร์ หลังวัดเกตุฝั่งตรงข้าม เป็นตำแหน่งวางตัวของร้านข้าวเกรียบปากหม้อ สาคูไส้หมู ลุงจร เวลาทำการคือ 07.00 – 17.00 น. หยุดกันทุกวันอาทิตย์ โดยมี 30 กว่าปี แห่งความอร่อยคู่กับเมืองเชียงใหม่มายืนยัน ผ่านลูกค้ามากหน้าหลายตาที่แวะมาอุดหนุนกันไม่อย่างขาดสาย
ไม่มีโต๊ะให้นั่งกิน แต่ต้องซื้อกลับไปกินบ้าน การบริการรวดเร็ว ฉับไว เพราะของกินทุกอย่างวางไว้พร้อมขายในแบบบรรจุกล่องเสร็จสรรพ ใครจะจอดรถแบบไม่ต้องลงมาซื้อก็ยังได้ หรือถ้าจะจอดก็ตรงหลังวัดเกตุที่มีพื้นที่พอสำหรับท่าน
รสชาติและเอกลักษณ์ของที่นี้อันโดดเด่น โดนใจ มาจากการคัดสรรวัตถุดิบที่ได้คุณภาพ ตั้งแต่แป้งที่ใช้ นอกจากนี้ยังพิเศษที่ตัวไส้ ซึ่งใช้เวลาเคี้ยวนานกว่า 2 -3 ชั่วโมง ใช้ถั่วลิสง หัวไช้โป๊คัดเฉพาะหัวโตชนิดหวาน นำมาล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้แห้งแล้วโม่ และยังมีหมูเนื้อแดงเคี่ยวกับน้ำตาลจนได้รสหวานกลมกล่อม
ข้าวเกรียบปากหม้อ รสชาติออกหอมหวาน เนื้อแป้งบางนุ่ม หอมมันกะทิที่ใช้ชุบตัวข้าวเกรียบเพื่อไม่ให้ติดกัน มีออปชั่นเป็นผักสลัด พริกขี้หนูสวน และกระเทียมเจียวไว้โรยหน้าเพื่อความสะเด่ายิ่งขึ้น
สาคูไส้หมู เลือกใช้แป้งสาคูที่ทำจากถั่วเขียว เพราะเมื่อนำมานึ่งจะเหนียวนุ่ม คงรูปได้นาน ตัวไส้เคี่ยวมานานถึง 3 ชั่วโมง รสชาติหวานหอมอร่อย
ตบท้ายด้วยขนมเบื้องญวน อันนี้เด็ดไม่แพ้กัน แป้งขนมเบื้องทอดกรอบสีเหลืองน่ากิน รสชาติไส้กลมกล่อมด้วยเครื่องเต้าหู้ ถั่วงอก หัวไชโป๊ กินกับน้ำอาจาด รสเปรี้ยว หวาน เค็ม ออปชั่นเสริมเป็น แตงกวาซอย หอมแดง และพริกชี้ฟ้า ใครไม่เคยกินขนมเบื้องนี้ แนะนำว่าพลาดไม่ได้เช่นกันพอๆ กับข้าวเกรียบปากหม้อ และสาคูไส้หมู
1 กล่อง 20 บาท ราคาแบบนี้ถูกปาก ถูกใจนักชิมแน่ และที่ถูกใจไม่แพ้กัน คือความอร่อยจากเมนูทั้งหมดทั้งมวลของทางร้านครับ
ข้าวเกรียบปากหม้อ สาคูไส้หมู ขนมเบื้องญวณ ว่าแต่ท่านจะรับอะไรไปทานดีครับ