ทริปแสวงบุญพระพุทธบาทสี่รอย #1

DSCF6949

ที่เที่ยวบางแห่งไปเที่ยวมาก็นาน นานเสียจนลืมไปเลยว่าตัวเองเคยไปเที่ยว จนที่นี้พอจะมาเขียน อารมณ์ก็หายไปหมด จนต้องมานั่งระลึกชาติว่าตอนนั้นเป็นยังไงยิ่งตอนนี้อายุก็เยอะขึ้น ความจำก็หดหายกันไปเป็นธรรมดา

ย้อนกลับไปราวๆ ซัก 3 เดือนที่แล้ว มีโอกาสไปเที่ยววัดพระพุทธบาทสี่รอยมา ก่อนไปไม่นึกหรอกว่ามันจะยากเย็นและแสนไกล แต่พอได้จับมอเตอร์ไซค์บิดผ่าฝนไปเท่านั้นแหละ ต้องบอกเลยว่างานนี้มันไม่ธรรมดาครับ

ผมขับรถโดยเลือกใช้เส้นทางจากแม่ริมมุ่งหน้าไปทาง อ.แม่แตงซึ่งเส้นทางจะพาไปยังวัดพระพุทธบาทสี่รอยนั้น จะอยู่ระหว่างเกือบ เขต อ.แม่แตง กับ อ.แม่ริม โดยสังเกตป้ายปั้มน้ำมันเพียวใหญ่ๆ ทางขวามือ ทางเข้าวัดพระบาทสี่รอยจะอยู่ทางซ้ายมือตรงข้ามปั้มเพียว หากันได้ไม่ยากครับ

จากปากทางเข้ามา ระยะทางมุ่งหน้าไปถึงวัด ถ้าจำไม่ผิด จะอยู่ราวๆ 20 กิโลเมตรด้วยกัน โดยเส้นทางนี้จะผ่านหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน สลับไปกับทุ่งนา ป่าเขา พร้อมอากาศบริสุทธิ์ ชนิดที่ว่าเพลินกันเลยทีเดียวกับวิวสองข้างทางจนผมอดดื่มด่ำไปกับมันไม่ได้

10606385_898438986851246_4599643204769194454_n

ช่วงที่น่าประทับใจ คือ ช่วงก่อนถึงบ้านเมืองก๊ะเรื่อยไปจนถึงวัดพระพุทธบาทสี่รอย แถวนี้อากาศจะเย็นและชุ่มชื่น สองข้างทางเต็มไปด้วยป่า กอปรกับช่วงดังกล่าวที่ผมไปมีฝนรินลงมาด้วย งานนี้เลยได้ชมสายหมอกคลอเคลียไปกับขุนเขา

ถึงบ้านเมืองกะ ผมแวะเล็กน้อยพักที่นี้ครู่หนึ่ง เพื่อเก็บภาพสถูปขุนหลวงวิลังคะ และเสพบรรยากาศนิดหน่อยภายในหมู่บ้านแห่งนี้ อันเป็นเป็นที่ตั้งชุมชนของชนเผ่าลัวะ กลุ่มคนดั้งเดิมในล้านนา

DSCF6964

บ้านเมืองก๊ะ เมื่อ 1,300 ปีที่แล้ว หลังจากพ่อขุนหลวงวิลังคะพ่ายแพ้จึงไม่อยากพบหน้าใครอีก จึงหนีเข้าป่า โดยมีหมู่ชาวลัวะบางส่วนติดตามมาตั้งถิ่นฐานอยู่บ้านลัวะก๊ะ และได้สร้างเมืองเล็กๆ ทำมาหากินตามประสาคนป่า และต่างนับถือกันประดุจญาติพี่น้อง จึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “เมืองก๊ะ” ซึ่งเป็นที่มาจากชื่อของขุนหลวงบะลังก๊ะนั่นเอง

ทั้งนี้ จากนิทานโบราณของชาวลัวะ เล่าว่าชาวลัวะบ้านเมืองก๊ะ เรียกตนเองว่า “พะล็อก” แต่คนภายนอกเรียกว่า “ลัวะ” โดยในสมัยก่อนนั้นเล่าว่า ชาวลัวะมีตัวหนังสือใช้ แต่เขียนลงบนหนังสัตว์ สุนัขได้คาบไปกิน ทำให้ชาวลัวะไม่มีตัวหนังสือใช้จนถึงทุกวันนี้

DSCF6963

DSCF6962

ในบ้านเมืองก๊ะ สิ่งที่น่าสนใจ คือ บ้านลัวะในสมัยก่อนที่ถูกสร้างจำลองมาให้คนได้ชม โดยจะอยู่ตรงบริเวณปากทางเข้าวัด ใกล้ๆ กันกับที่ตั้งของสถูปขุนหลวงวิลังคะ

ไว้มาต่อกันกับเรื่องราวของขุนหลวงวิลังคะ ก่อนมุ่งหน้าขึ้นเขาไปยังวัดพระพุทธบาทสี่รอยกันครับ