วัดขุนเส

DSCF4776

ตามประสาคนช่างสังเกต ผมเอะใจกับชื่อวัดแห่งนี้ตั้งแต่แรก พร้อมทั้งรูปปั้นหน้าวัดของชายคนหนึ่งถือดาบอยู่ในมือสองข้าง

“ขุนเส” เป็นชื่อเสียงเรียงนามเขา ว่าแต่ชายคนนี้เป็นใคร? ทำไมถึงมีความสำคัญกับวัดแห่งนี้

DSCF4779

จากข้อมูลที่ค้นได้บอกว่าวัดขุนเส มีอีกชื่อคือ วัดขุนสุธรรมสังการ โดยขุนเส (ขุนสุธรรมสังการ) นั้น เป็นทหารรักษาพระเสตังคมณี ซึ่งเป็นพระประจำพระองค์ของพระจามเทวี นครลำพูน ครานั้น พระจามเทวีเสด็จมาทางนี้ เพื่อที่จะไปชมดอยสุเทพ และเคยมาแวะพักบริเวณบ้านขุนเส ก่อนที่พระนางจามเทวี จะพระนามให้ ขุนสุธรรมสังการ จึงได้นามว่า ขุนเส

DSCF4770

จากนั้นประมาณ พ.ศ. 2466 พระชายาเจ้าดารารัศมี ได้มาสร้าง วิหาร และกุฏิสงฆ์ถวายให้วัดขุนเส โดยจากลำดับเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้น วัดก็ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด พ.ศ. 2400 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ พ.ศ. 2536นอกจากนี้ วัดขุนเส ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง และ วัดพัฒนาดีเด่น อีกด้วย

DSCF4773

ทั้งนี้ ศาสนสถานที่น่าสนใจภายในวัดวัดขุนเสมีวิหาร เจดีย์ อุโบสถ และกุฏิที่เจ้าดารารัศมีที่สร้างไว้ แต่ในปัจจุบันได้ถูกรื้อไปแล้ว แต่ยังมีบางส่วนเก็บไว้ บางส่วนก็จะมาดูของใหม่แทน ซึ่งมีความสวยงาม แต่บางส่วนก็มาดูเพดานที่ยังเก็บไว้อยู่

DSCF4771

นอกความน่าสนใจในเรื่องของศาสนสถาน ในวัดแห่งนี้เรายังสามารถศึกษาประวัติศาสตร์เจ้าดารารัศมี เพราะในหนังสือ มีระบุวัดขุนเสว่า เจ้าดารารัศมีเข้ามาดำเนินเสด็จในบริเวณนี้ มาดูว่าเจ้าดารารัศมีได้ทำเข้ามาทำอะไรบ้าง

ตบท้ายด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับ พระเสตังคมณี หรือ พระแก้วขาว ที่ขุนสุธรรมสังการ รับหน้าที่เป็นทหารรักษา โดยพระเสตังคมณี นั้นเป็นพระพุทธรูปสลักจากแก้วสีขาวใส มีขนาดหน้าตักกว้าง 4 นิ้ว สูง 6 นิ้ว มีพุทธลักษณะที่งดงาม ยังมีความอัศจรรย์คือ พระเนตรทั้งสองข้าง สามารถหลับและลืมได้ พระโอษฐ์บางครั้งก็แย้มยิ้มประหนึ่งทักทายผู้มานมัสการ ตำนานกล่าวว่าเป็นศิลปะสกุลช่างละโว้ ปัจจุบันประดิษฐานคู่กับพระศิลาซึ่งเป็นพระปางปราบช้างนาฬาคีรี ภายในพระวิหารวัดเชียงมั่น ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

อย่างที่ได้บอกไว้ ใครอยากไปนมัสการพระเสตังคมณี ก็เชิญที่ภายในพระวิหารวัดเชียงมั่น ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ แต่ถ้าใครอยากมาเที่ยวที่วัดขุนเส พร้อมทั้งอยากมาทำบุญ ก็เชิญกันที่นี้ครับ เรียกได้ว่าแล้วแต่สะดวกและศรัทธาของท่านทั้งหลาย ว่าจะเลือกแบบไหน หรือจะไปกันแบบใด