เวลาได้อ่านเรื่องราวสมัยอดีต ผมมักจะจินตนาการตามไปด้วยถึงเหตุการณ์ในยุคนั้น ว่ามันจะออกมายังไง
จะเรียกว่า “มโนภาพ” เอาก็คงถูก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากคนอ่านจะต้องอาศัยจินตนาการอย่างล้ำลึกแล้ว คนเขียนเรื่องราวต้องมีศิลปะและชั้นเชิงในการเล่าเรื่องพอสมควร
เล่าแบบไหนให้ตัวหนังสือมีชีวิต มีตัวตน และอารมณ์ร่วมดีที่สุด นั่นแหละเป็นเป้าหมายปลายทางอันรื่นรมย์ที่คนอ่านอยากจะรับ
ล่าสุดมีโอกาสได้มาเที่ยววัดป่าเปอะ ในตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี ซึ่งภายหลังจากทราบข้อมูลประวัติวัดมาอย่างคร่าวๆ แล้ว แน่นอนว่าผมจินตนาการตามไปด้วยกับเรื่องราวที่ได้รับรู้
มูลเหตุเกิดของการตั้งชื่อวัดป่าเปอะนั้น จะบอกว่าแปลกอยู่หน่อยๆ ก็คงใช่ เมื่ออาศัยเรื่องของการเดินทางมาฉลองวัดสมัยก่อนมาตั้งเป็นชื่อ
ครานั้นชาวบ้านต้องลำบากในการเดินทางมาวัด เนื่องจากเกิดฝนตกหนักจนถนนลื่นแฉะมีแต่โคลน (ขี้เปอะ) และด้วยเหตุนี้ จึงได้เสนอให้ตั้งชื่อวัดว่า “วัดป่าเปอะ”ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้คนที่เสนอชื่อก็คือ พระพรหม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างวัด ก่อนต่อมาจะจำพรรษาอยู่ที่นี่
วัดป่าเปอะ ตามประวัติบอกเล่าว่า สร้างเมื่อ พ.ศ. 2204 ครานั้นเจ้าตุ๊หลายชายของหมื่นสารได้บวชแล้วจำพรรษาที่วัดนันทาราม ตำบลไชยสถาน โดยมีนายพรหมซึ่งเป็นคนรับใช้บวชเป็นพระคอยรับใช้ตามเป็นผู้สร้างวัดขึ้น เมื่อฉลองวัดแล้วพระเจ้าตุ๊ให้พระพรหมจำพรรษาที่วัดป่าเปอะจนสิ้นอายุขัย
สำหรับสิ่งที่น่าสนใจในวัดแห่งนี้ ก็จะประกอบด้วย วิหารทรงแบบพื้นเมือง ศาลาการเปรียญเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียวรูปทรงพื้นเมืองไทยภาคเหนือ ศาลาบำเพ็ญบุญชั้นเดียวทรงล้านนา กุฏิสงฆ์ 2 ชั้นรูปทรงล้านนา อุโบสถปูชนียวัตถุประกอบด้วย เจดีย์ พระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน พระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนรักปิดทอง และพระพุทธรูปหล่อด้วยทองลงรักปิดทอง
ที่เห็นโดดเด่นกว่าใคร น่าจะเป็น เจดีย์ ที่ข้างในตรงฐานด้านล่างประดิษฐาน พระสังกัจจายน์ หรือ พระมหากัจจายนเถระ พระอรหันต์ ในพระพุทธศาสนาผู้มีปัญญามาก เป็นผู้เลิศในทางอธิบายธรรม เป็นเลิศในลาภ สักการะ โภคทรัพย์ และเสน่ห์เมตตามหานิยมทั้งปวง โดยเดิมทีนั้น พระสังกัจจายน์ เป็นผู้มีรูปกายงดงามสง่า ผิวพรรณสุกใสเปล่งปลั่งดั่งทองคำ อันเนื่องจากอานิสงส์ที่เคยถวายทองคำ ก่อสร้างเจดีย์ในชาติปางหนึ่ง
สำหรับใครที่สนใจจะมากราบไหว้ สักการบูชา เพื่อให้บังเกิดความเป็นสิริมงคล 3 ประการคือ โชคลาภ/ความอุดมสมบูรณ์ ,สติปัญญา, ความงามและความมีเสน่ห์ ก็เชิญมาได้ที่วัดป่าเปอะ ส่วนไหว้แล้วชีวิตจะดีขึ้นหรือไม่นั้น สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็ต้องเป็นคนที่อยู่ในศีลในธรรมควบคู่กันไปด้วย