พูดถึงเรื่องศรัทธา ของแบบนี้หากจะกล่าวถึงมันสุ่มเสี่ยงต่อการถูกกะซวกมาก ไม่ว่าจะคุยกันมุมไหน
เอาง่ายๆ มีแต่เจ๊ากับเจ๊งครับ
ผมนึกถึงเรื่องนี้ได้เพราะไปเที่ยววัดศรีปิงเมือง เหตุเกิดระหว่างที่กำลังเพลินๆ เดินเล่นในวัด อยู่ดีๆ ก็มีคุณลุงคนนึงขับมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าวิหาร ก่อนถอดรองเท้าอีแตะสับตีนเดินขึ้นไป
ประตูวิหารถูกปิดไว้แต่แรกเริ่ม ผมกำลังคิดว่าลุงแกจะทำอะไร
ลุงไม่ได้เข้าไปด้านใน แต่ลุงนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าประตู จากนั้นก็ก้มกราบไปสามที พนมมืออธิษฐานอะไรซักอย่าง เสร็จแล้วก็กราบลาสามทีเหมือนเดิม และเดินลงมา ขับรถกลับบ้าน
สังเกตเห็นอะไรมั้ยครับ
“ศรัทธา” ถามว่ามันแปลกมั้ยที่เจอแบบนี้ มันก็คงไม่หรอก เพราะที่ผ่านมาเราๆ ท่านๆ ก็เห็นคนไทยพนมมือไหว้ขออะไรไปเรื่อยแหละ แต่กรณีนี้ผมว่ามันพิเศษใส่ไข่กว่าใครเป็นไหนๆ
แกไม่ได้ไหว้เลื่อนลอย แต่แกมาแบบตั้งใจ (อาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ว่าประตูวิหารปิด) อีกอย่างมันสัมผัสได้ถึงความตั้งใจอย่างเปี่ยมล้น และไม่ใช่การงมงาย
ที่สำคัญมาแบบเก๋าสุดๆ ก่อนทิ้งปมให้ผมนึกต่อว่าลุงแกอธิษฐานอะไร
วัดศรีปิงเมือง วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ ตำบลหายยา อำเภอเมือง เชียงใหม่ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2432 (ตามหนังสือประวัติวัดราชทั่วราชอาณาจักร) ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 โดยสังกัดนิกายมหานิกาย
ตามประวัติเล่าอ้างว่า วัดศรีปิงเมืองสร้างขึ้นโดย พระยาปิง พระชัยมงคล พระยาพินิจ พร้อมด้วยครูบาเจ้าตุ๊ (พระครูกาวิละ เจ้าอาวาสวัดพวกแต้มในสมัยนั้น) พร้อมด้วยชาวบ้านร่วมกันสร้างแต่เดิมวัดศรีปิงเมืองเรียกกันว่า วัดสันป่าลาน เพราะว่ามีต้นไม้ลาน เป็นจำนวนมากต่อมา ได้เปลี่ยนเป็นวัดศรีพิงค์เมือง และ เปลี่ยนเป็นวัดศรีปิงเมือง จนถึงปัจจุบัน
หันมาดูสิ่งก่อสร้างภายในวัดที่สำคัญบ้าง ในวัดมีพระวิหารสร้างเมื่อ พ.ศ.2481 ก่อนจะบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2530 และล่าสุดสร้างใหม่ในปี พ.ศ.2550 จนปัจจุบันก็ทำการก่อสร้างเป็นอันแล้วเสร็จ โดยสิ่งที่โดดเด่นของตัววิหารนี้เป็นลวดลายต่างๆ รอบๆ วิหารรวมทั้งบานประตูหน้าต่างกันอีกด้วย
นอกนี้ก็ยังมี พระอุโบสถสร้างเมื่อ พ.ศ. 2495 มีการบูรณะครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2535 และบูรณะครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2552 ส่วนพระเจดีย์สร้างเมื่อ พ.ศ. 2459 บูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2549
จากภาพรวมดังกล่าววัดแห่งนี้มีวิหารที่สวยงาม (เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ด้วย) บรรยากาศวัดเงียบสงบ ไม่พลุกพล่านเหมือนหลายๆ ที่ และที่ผมชอบกว่าใครเป็นประตูทางเข้าวัดศรีปิงเมืองครับ โดยตรงหัวเสาเป็นสิงโต 4 ตัว ติดกัน หันหน้าไป 4 ทิศ อย่างน่าเกรงขาม
ถ้ามีคนถามผมว่ามาวัดแห่งนี้จำอะไรได้บ้าง คำตอบคงเป็นสิงโตตรงหัวเสาประตู และคุณลุงดูเก๋าๆ ตอนมาไหว้พระหน้าวิหารครับ