วัดอินทราราม

DSCF6390

แม้จะลำบากซักเพียงใด สุดท้ายผมก็พาตัวเองผ่าฝนมายังวัดอินทรารามจนได้สำเร็จ ฮ่าๆๆ และการผ่าฝนมาครั้งนี้ก็คุ้มค่าพอสมควร เนื่องจากวัดแห่งนี้มีความสวยงาม แถมยังมีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ด้วย

วัดอินทราราม เดิมชื่อว่าวัดขี้เหล็กหลวง แต่ตามตำนานเรียกวัดขี้เหล็กร่มหลวง เป็นวัดในชุมชนไทเขินที่อพยพมาจากเชียงตุง  วัดนี้เดิมตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำปิงตะวันตก ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบริเวณที่ตั้งวัดปัจจุบัน  มีระยะห่างจากที่ตั้งวัดปัจจุบันประมาณ 500 เมตร ซึ่งวัดเดิมถูกน้ำเซาะตลิ่งพังจึงได้ย้ายมาตั้งอยู่ ณ ที่นี้

DSCF6395

วัดนี้แต่เดิมสร้างโดยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงค์เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 6 (พ.ศ. 2399-2413) ต่อมาในปี พ.ศ. 2440  พระเจ้าอินทรวิชยานนท์เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7  ทรงสร้างวิหารที่มีเครื่องประกอบอาคารโดยใช้ไม้สัก  เสาไม้สักขนาดใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 60  เซนติเมตร สูง 10  เมตร  ลงรักปิดทองด้วยลวดลายไทยล้านนาวิจิตรงดงาม สร้างเสร็จแล้วได้ขนานนามว่า “วัดขี้เหล็กหลวง”

DSCF6394

พอในปี พ.ศ. 2443  วัดได้ถูกน้ำเซาะพังทลายลงเกินความสามารถที่จะรักษาไว้ได้ คณะศรัทธาชาวบ้านจึงได้รื้อเก็บเครื่องประกอบวิหารไว้ได้ทั้งหมด  และขนย้ายมาก่อสร้างในที่วัดปัจจุบัน และในปี พ.ศ. 2444 การก่อสร้างใช้อุปกรณ์เดิมแทบทั้งหมด  ฝาผนังก่อด้วยอิฐถือปูน  หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา และใช้ชื่อของวัดเดิมคือ วัดขี้เหล็กหลวง  พร้อมกันนี้ชาวบ้านได้อัญเชิญพระพุทธรูปจากฐานชุกชีของวัดเดิม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น  ขนาดหน้าตักกว้าง 1 เมตร สูง  1 เมตร  มาประดิษฐานไว้ในวิหารหลังใหม่

DSCF6397

และต่อมาในปี  พ.ศ. 2470   พระราชชายาเจ้าดารารัศมีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จนิวัติกลับเชียงใหม่  ได้ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์บูรณะปฏิสังขรณ์วัดขี้เหล็กหลวงและทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 400 รูปี  สร้างกุฎิสงฆ์ขึ้นมาหนึ่งหลัง ขนาดกว้าง  10  เมตร  ยาว  14  เมตร เป็นอาคารปูนครึ่งไม้  เครื่องประกอบเป็นไม้สัก  หลังคากระเบื้องดินเผา  โดยพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงโปรดให้ตั้งพลับพลาที่ประทับหน้าวัดด้านทิศตะวันออก ทรงเป็นองค์ประธานอุปถัมภ์ และและทรงโปรดให้จัดงานปอยหลวงฉลองสมโภชมอบถวายเสนาสนะแด่พระรัตนตรัยโดยพระองค์ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานร่วมตลอดงาน  ต่อมาในปี พ.ศ. 2519  กุฏิสงฆ์หลังดังกล่าวได้ชำรุดทรุดโทรมลง  คณะศรัทธาชาวบ้านจึงได้ร่วมกันปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ โดยที่โครงสร้างของกุฏิสงฆ์ ชั้นล่างก่ออิฐถือปูนชั้นบนเป็นไม้ซึ่งยังคงใช้วัสดุอุปกรณ์เดิมส่วนหลังคามุงกระเบื้องลอนคู่  ดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่ทุกวันนี้

DSCF6389

ในปี พ.ศ. 2486  ทางกรมการศาสนาได้เปลี่ยนแปลงชื่อวัดเพื่อความเหมาะสม  โดยที่คณะสงฆ์และคณะศรัทธาชาวบ้านได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า  เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติพระเจ้าอินทรวิชยานนท์ และพระราชชายาเจ้าดารารัศมีพระราชธิดาที่ทรงอุปถัมภ์วัดเสมอมา  จึงใช้พระนามของพระเจ้าอินทรวิชยานนท์เป็นชื่อของวัดเพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณให้สืบต่อไปชั่วกาลนาน  จากวัดขี้เหล็กหลวง  จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น” วัดอินทราราม” จนถึงปัจจุบัน

หลังจากนั้นเป็นต้นมา วัดอินทรารามก็มีหลายเหตุการณ์สำคัญ ดังต่อไปนี้

ในปี พ.ศ. 2542 จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดสร้างป้ายวัดในประวัติศาสตร์ของนครเชียงใหม่ ณ วัดอินทราราม เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลปัจจุบัน  ทรงเจริญพระชนมายุ 72  พรรษา

DSCF6390

ในปี พ.ศ. 2547  วัดอินทรารามได้รับพระเมตตาจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัลยาสิริวัฒนาพรรณวดี ทรงประทานพระพุทธไตรรัตนโลกนาถ “หลวงพ่อองค์ใหญ่” พระพุทธรูปประจำพระชนมวารในพระองค์ มาประดิษฐาน   ณ  วิหารวัดอินทราราม

DSCF6391

ในปี พ.ศ. 2548 วัดอินทรารามได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วิหารขึ้นใหม่เกือบทั้งหลัง โดยยังคงใช้เสาและโครงสร้างเดิม   เพียงแต่ได้ทำการรื้อหลังคาวิหาร เปลี่ยนช่อฟ้า ใบระกา และได้สร้างขึ้นใหม่ โดยสร้างฉัตรไว้ตรงกลาง ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม  พร้อมกับกะเทาะฐานล่างของวิหารซึ่งแต่เดิมฉาบด้วยปูนขาว โดยได้ฉาบด้วยปูนซีเมนต์แทนเพื่อให้ฐานมีความแข็งแรงกว่าเดิม ประตูและหน้าต่างไม้สักโบราณก็ได้ประกอบด้วยไม้จำหลักที่มีความวิจิตรงดงามขึ้นใหม่    พื้นวิหารก็ได้ปูด้วยกระเบื้องลายน้ำทะเล พร้อมกันนี้ก็ได้สร้างราวบันไดทางขึ้น โดยเป็นศิลปะแบบหางวาฬ ตามสมัยนิยม  และได้สร้างซุ้มประตูขึ้นใหม่ให้มีความวิจิตรงดงาม  พร้อมกับทาสีใหม่ทั้งหลัง โดยได้มีการเฉลิมฉลอง (ปอยหลวง ) เป็นเวลา  3  วัน 3 คืน  เมื่อวันที่  17-19  เดือนมีนาคม  พ.ศ.2549

วัดอินทราราม ถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจ ในตัวอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กันครับ