วัดเกตุการาม อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ไม่ว่าจะขาประจำหรือขาจร หากคุณมีโอกาสมาเชียงใหม่ ซักครั้ง คุณต้องแวะมาเหยียบกันที่นี้
วัดเกตุการาม หรือ วัดสระเกษ ตั้งอยู่ ถ.เจริญราษฎร์ ต.วัดเกต ในตัวอำเภอเมืองครับ วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัย พระเจ้าสามฝั่งแกน โดยโปรดฯ ให้พระยาเมือง พระยาคำ และพระยาลือ สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 1971 ภายในวัดมีพระเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นที่สักการะของชุมชน และเนื่องด้วยแถวนี้ ตั้งอยู่ในชุมชนการค้าเก่าของชาวจีน ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง สิ่งก่อสร้างในยุคหลังที่ได้บูรณะขึ้น จึงมีศิลปะจีนปนอยู่
หลังจากรู้ที่มาที่ไปอย่างคร่าวๆ มาดูเรื่องศาสนสถานและปูชนียวัตถุภายในวัดเกตการามกันบ้าง ในวัดแห่งนี้ก็จะประกอบไปด้วย พระเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี เป็นเจดีย์ประธานทรงระฆังแบบล้านนา ซึ่งจำลองจากพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อให้สาธุชนได้สักการะ ฐานเจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยมแบบย่อเก็จ มีซุ้มจระนำประดิษฐานองค์พระทั้งสี่ทิศ ส่วนบนตั้งแต่ปากระฆังถึงปลียอด ประดับด้วยทองจังโกดุนลาย โดยรอบมีเจดีย์บริวารทั้งสี่มุม
พระวิหาร สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 9 ห้อง มีเสาคู่ในรองรับหลังคาหน้าจั่วและเสาคู่นอกรับแนวหลังคาปีกนกย่อเก็จ 3 ตอน ในแนวตะวันออก-ตะวันตก หน้าบันประดับลวดลายแกะสลักลายพรรณพฤกษาปิดทอง นาคะตันเป็นไม้ แกะสลักลวดลายเครือเถา บัวหัวเสาประดับด้วยแก้วอังวะ ตัวเสามีลายทอง หางหงส์ประดับด้วยไม้เป็นรูปนาคลำยองประดับด้วยแก้วอังวะลงรักปิดทอง มีประตูทางเข้าสามทาง หลังคาทรงจั่วเรียงซ้อนกัน 5 ชั้น (คำเมืองเรียกว่า ซด) 2 ตับ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นประธาน
พระอุโบสถ มีหลังคาซ้อนกัน 2 ตับ 2 ชั้น แบบล้านนาราวบันไดเป็นรูปพญานาคหน้าบันแกะสลักลายพรรณพฤกษาประดับด้วยกระจกสี หลังคาด้านหน้าของอุโบสถเป็น รูปนาคสะดุ้ง ผนังด้านหน้าอุโบสถมีรูปกิเลนประดับอยู่ด้านละตัว วิหาร 2 หลัง เจดีย์ ลักษณะเจดีย์เป็นเจดีย์ทรงกลมแบบล้านนา ฐานเป็นสี่เหลี่ยมแบบย่อเก็จ ถัดไปเป็นมาลัยเถา 3 ชั้น ประดับด้วยทองจังโกดุนด้วยลวดลายต่างๆ ตั้งแต่ปากระฆังถึงบัลลังก์ ปล้องไฉน ปลียอด ฉัตร ด้านหน้ามีซุ้มพระพุทธรูปประทับยืน ราวบันไดเป็นรูปพญานาค
ศาลาบาตร ศาลาก่ออิฐถือปูน ผนังประดับลายปูนปั้น ภายในมีงานจิตรกรรมจีน รวมทั้งเป็นที่เก็บรักษาหางหงส์เก่าและกลองหลวง
ตบท้ายด้วย ศิลาจารึกวัดเกต ตั้งอยู่บนมุขด้านใต้ของพระวิหาร จารึกเป็นอักษรฝักขามบนหินทรายสีแดง กว้าง 58 เซนติเมตร สูง 176 เซนติเมตร หนา 21 เซนติเมตร ด้านหน้าลบเลือนไปหมด เหลือแต่ดวงศิลาจารึก และด้านหลังยังพออ่านได้กันอยู่
นอกจากวัดจะมีความสวยงามแล้ว ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้ได้เยี่ยมชมกันอีกด้วย ซึ่งหากใครมาเที่ยววัดเกตุการาม ผมกล้ารับรองได้เลยว่า คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มครับ