ประเทศไทยเวลาจะเอางบมาทำโครงการหรือพัฒนาอะไรซักอย่างของสาธารณะ ส่วนใหญ่มักจะโดนมองว่ามีแดกงบรึเปล่า
คือแดกไม่พอ บางแห่งยังทำกันไม่เสร็จ หรือไม่ก็เสร็จช้ากว่ากำหนดอีก แถมตอนทำเสร็จแล้ว ไอ้เราก็ไม่รู้นะว่ามันจะออกมาดีและคุ้มค่ามั้ย
แหงล่ะ เงินของภาษีประชาชน และในฐานะประชาชนผู้ไม่เคยหลีกเลี่ยงภาษี มันก็ต้องมีเคืองบ้าง
ย้อนกลับไปเมื่อซัก 1 ปีที่แล้ว บังเอิญไปสำรวจ สวนกาญจนาภิเษก เชียงใหม่ ตรงข้ามกับสวนบวกหาด (ข้างโรงพยาบาลสวนปรุงนั้นแหละ) ครานั้นอารมณ์ไปสำรวจรับรู้ได้ถึงความแตกต่างระดับหน้ามือกับหลังตีนเลยครับ คืออะไรมันจะต่างกันเพียงนี้
ตรงข้าม สวนกาญจนาภิเษก เป็น สวนบวกหาด ถ้าให้เทียบเห็นภาพ สวนบวกหาด เป็นหญิงสาวสวย ดูดีมีภูมิฐาน ส่วนสวนกาญจนาภิเษก เป็นหญิงสาวผู้ยากจนอันแสนจะขี้เหร่ คือขี้เหร่ไม่พอยัง นี่ยังทำตัวสกปรกอีก
สกปรกยังไง?
กองขยะครับ ไม่รู้ว่ามนุษย์คนไหนมันเอามาทิ้งใส่สวนสาธารณะแบบนั้น คือปกติสวนมันก็รกร้าง วังเวง อยู่แล้ว (รอวันพัฒนา) ไอ้นี้ก็ยังไปซ้ำเติมอีก
เห็นแล้วก็ได้แต่เพลียกับวินัยของคนบ้านนี้เมืองนี้ มิน่าล่ะถึงยังไม่พัฒนาไปไหน
กลับมายังเวลาปัจจุบันผ่านไปเกือบปี ผมกลับมาอีกรอบมาดูว่าเขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้เจอป้ายปักไว้ว่าจะยกเครื่องใหม่ในสวนให้ไฉไลขึ้น
จากป้ายประกาศ เทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ติดไว้หน้า สวนกาญจนาภิเษก บอกว่าการปรับปรุงสวนเสร็จในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2556 นั้นหมายความว่า ณ เวลานี้ มันน่าจะเสร็จแล้ว
เออ ว่าแต่ทำไมยังล็อคประตูทางเข้าสวนฮะ
โอเค ไม่เป็นไร เดินดูด้านนอกรอบๆ เอาก็ได้
15 นาทีจากการสำรวจพลางพบว่าดูดีขึ้นแต่ก่อนเยอะ เรียกได้ว่าแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ซะสวยเชียว กองขยะไม่มีให้เห็น ด้านหน้าสวนสะอาดสะอ้าน ภายในความรกร้างจากต้นไม้ใบหญ้าไม่มี ทั้งนี้เพราะทั้งหมดมันถูกตัดแต่งให้ดีขึ้น
ที่เหลือจากนี้ไปคงเป็นการเพิ่มไม้ดอกไม้ประดับลงไปให้แลดูสวยงาม กับการปรับปรุงเรื่องกลิ่นของน้ำในคลองของ สวนกาญจนาภิเษก ที่ไหลมาจากแจ่งกู่เฮือง ซึ่งไอ้เรื่องกลิ่นเหม็นนี้หากไม่ได้รับการแก้ไข พอเปิดให้ประชาชนใช้บริการไป มันก็ไม่เวิร์คแน่นอน แหงล่ะ น้ำเหม็นแบบนั้น ต่อให้สวนสวยบาดใจเพียงไหน ก็ไม่มีอารมณ์ไปเดินเล่นหรอก
ไหนๆ ก็แต่งตัวให้มันใหม่แล้ว ยังไงก็อย่าลืมฉีดน้ำหอมให้หญิงสาวคนนี้ด้วย เธอจะได้สวยและน่าหอมเหมือนสาวอีกคนที่ชื่อ สวนบวกหาด ครับ