ตั้งแต่มาอยู่นี้ รู้สึกว่าตัวเองไปสวนสัตว์เชียงใหม่มาแล้ว 3-4 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านมา ก็มักจะบินเดี่ยวไปเรื่อยตามสไตล์ตัวเอง
ใจจริง ไม่ใช่ว่าชอบบินเดี่ยวอะไรนักหนานะครับ เพียงแต่สหายทั้งหลาย ล้วนแต่ติดการติดงานกันทั้งนั้น สุดท้ายทางออกของตัวเอง ก็ต้องไปเที่ยวมันคนเดียวเหมือนเช่นเคย
“ถึงตูไม่ค่อยพูด แต่ตูก็เหงานะเฟ้ย” เสียงร่ำร้องในใจดังออกมาเป็นระยะ
ล่าสุดมีโอกาสไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่อีกรอบ ในช่วงระยะเวลาที่หลินปิงกำลังจะถูก (ถีบ) ส่งกลับเมืองจีน ผมโชคดีมีเพื่อนร่วมทริปด้วย ซึ่งจะพูดไป ก็ไม่นึกหรอกครับว่าเธอจะมาเที่ยวด้วยกับผม
อยู่ดีๆ คนไม่เคยรู้จักกันจะมาเที่ยวด้วยกัน ประหนึ่งเคยรู้จักกันมาเป็นชาติ ของแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ นะครับ ซึ่งกว่าจะเจอคนประเภทนี้ เคมีหลายๆ อย่าง ในตัวมันต้องตรงกัน แถมยังต้องอาศัยจิตวิญญาณในการรับรู้ ว่าคนทั้งคู่ต้องถูกชะตากันด้วย
เมื่อทุกอย่างมันคลิ๊กใส่กันลงตัวเป๊ะ บางทีชาวบ้านที่เห็น ก็อาจจะนึกไปเลยก็ได้ว่าสองคนนี้ มันเพื่อนซี้ย่ำปึ้กกันแน่ๆ ซึ่งผมกับเธอก็ถูกจัดอยู่ในหมวดหมูประเภทนั้น
บ่ายสามคือเวลาไปถึงสวนสัตว์ จ่ายตังค์เสร็จสรรพค่าตั๋วคนละ 70 บาท ก็ได้เวลาแปลงตัวเองเป็นไกด์คร่าวๆ พาเธอเที่ยวสวนสัตว์ และด้วยความที่ตัวเองไม่ได้มานานหลายเดือน ก็ชักจะมีหลงๆ ลืมๆ บ้างว่าจะเดินไปตามถนนเส้นไหน ทะลุเส้นไหน เพื่อดูสัตว์ประเภทอะไรบ้าง (ขนาดในมือมีแผนที่กระดาษที่ขอกับเจ้าหน้าที่นะเนี่ย)
ในเมื่อมีหลงๆ ลืมๆ ไป บวกกับสมาธิไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เพราะใครบางคน ก็เลยพากันเดินแบบเลอะเทอะไปเรื่อย ดูสัตว์ไปทีละส่วนเอาตามความพอใจที่จะเดินไปดู เหนื่อยตรงไหนก็พักตรงนั้น
พากันเดินเล่นไปได้ซักพัก เห็นเธอบอกว่าอยากดูแรดกับชะนี (เป็นอย่างมาก) ไอ้ผมก็นะ ในเมื่อขอมาก็จะพาไปให้หายสมใจอยาก และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ อยากให้เธอสนุกไปกับการเที่ยวสวนสัตว์ในครั้งนี้ ส่วนตัวเอง ยังไงก็ได้ แบบว่ามาบ่อยจนชินแล้ว (เหตุผลในการชมแรดและชะนีของท่านสุภาพสตรี คงไม่ต้องอธิบายนะครับ ว่าเพราะอะไร)
เดินเล่นไป ชมสัตว์ไป ถ่ายรูปไปบ้างตามประสา ก็เกิดรู้สึกว่าแปลกดี ที่มีคนถ่ายรูปให้ (ปกติไปคนเดียวไม่มีใครถ่ายให้ ฮ่าๆๆ) นี่ถ้ามีคนไปเที่ยวด้วยแบบนี้ทุกวันคงจะสนุกดี จะได้มีรูปเหมือนชาวบ้านเขาบ้าง
2 ชั่วโมงกว่า คือระยะเวลาในการเที่ยวสวนสัตว์ ซึ่งไม่ว่าผมจะไปครั้งไหน ก็ไม่เคยเห็นส่วนจัดแสดงมันเสร็จซักที เห็นมีแต่จะสลับสับเปลี่ยนกันปรับปรุงตลอด แต่รวมๆ ก็ไม่ถึงกับซีเรียสมาก เพราะแบบว่ามันชินแล้ว
ชินกับสภาพแวดล้อมในสวนสัตว์ที่เจอประจำ ชินกับสภาพตัวเองที่ไปเที่ยวไหน ไปแต่คนเดียวตลอด ซึ่งบางทีถ้ามีใครซักคนไปเที่ยวด้วยทุกครั้ง มันก็น่าจะเป็นความ “เคยชิน” ที่ผมอยากจะทำความรู้จัก และพร้อมจะยินดีน้อมรับ เข้าหาตัวเองเสมอ
เคยชิน “คนเดียว” กับเคยชิน “สองคน” ขึ้นอยู่ที่ใครบางคนจะไปกับเรารึเปล่า?