เมื่อผมไปเที่ยววัด แล้วถูกกระตุกต่อมบาปด้วย “วัฏสงสาร 31 ภูมิ”

C360_2013-09-12-16-56-17-025

แม้จะดูไม่เกี่ยวกับเรื่องกินเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่คงจะพอสะกิดใจ สำหรับใครหลายๆ คน ที่ชอบไปเที่ยววัด แล้วเผอิญไปอ่านเจอเข้า หรือถ้ายังไม่เจอ ก็เดินตามก้นผมมา

จำได้ว่า ตัวเองเคยแดกดันคนที่โพสต์เรื่องธรรมะ แต่ดันถือศีล 5 ไม่ครบ…

ไม่ได้บรรลุทางธรรมะ แต่การจะบอกกล่าวอะไรที่มันเป็นประโยชน์ทางศาสนา โดยที่ตนยังปฎิบัติไม่ได้ คือเรื่องสุ่มเสี่ยงเข้าข่าย "มือถือสาก ปากถือศีล"

ฉะนั้น วันนี้ขอทำตัวแบบนั้นซักวัน ถือซะว่าเอาบอกกล่าวกันให้ได้คนอื่นรับรู้

ปกติไปเที่ยววัด (ทั้งแบบจำเป็นและไม่จำเป็น) หลักๆ ก็ไหว้พระ เดินชมศาสนสถาน และอ่านป้ายคำคมเล่น แต่เมื่อวานกลับมีอะไรเพิ่มเติมมากกว่านั้น จนติดชะงักไม่ไปไหนนานกว่าชั่วโมง

ปากทางเข้าประตูวิหารวัดอุโมงเถรจันทร์ มีป้ายตั้งหราท้าสายตา ใจความสำคัญในนั้นเป็นเรื่องวัฏสงสาร แปลเป็นคำพูดเข้าใจกัน มันคือเรื่องภพภูมิที่มนุษย์ทุกคนต้องเวียนว่ายตายเกิดขึ้นมา ตามหลักของพุทธศาสนาซึ่งบัญญัติไว้ว่ามีทั้งสิ้น 31 ภูมิ

C360_2013-09-12-16-57-46-843

เนื้อหาบนป้ายเยอะกันสุดๆ ฉะนั้นจะหยิบยกเอาแค่เรื่องที่กระตุกต่อมบาปมาให้อ่านกันเท่านั้น

เรื่องนรกครับ นรกในจินตนาการเราสำหรับชาวพุทธ กระทะทองแดง, ยมทูตเอาหอกทิ่มตูดให้ปีนต้นงิ้วหนาม, เหล่าบรรดาคนชั่วยื่นไม้ยื่นมือร้องทุกข์ทนด้วยความเจ็บปวดกันสารพัด คือสิ่งที่เราๆท่านๆ เห็นกันประจำจากทีวี และหนังสือ

หลังจากนั่งอ่านเรื่องนรกกันอย่างคร่าวๆ ว่าแต่ล่ะขุมเป็นยังไง ก็ให้รู้สึกเกิดอาการกลัวขึ้นมาทันที แม้ภาพประกอบจะไม่มีให้เห็น แต่อ่านเสร็จแต่ล่ะขุมแล้วมโนภาพตาม บางทีการเกิดมาเป็นมนุษย์ อ่านจะไม่ใช่เรื่องน่ายินดีซักเท่าไหร่

ด้วยกิเลส ตัณหาหลายๆ ที่เสี่ยงต่อการทำบาปสุดๆ ทำนอง ทำชั่วง่าย ทำดียากจะตายห่า ฉะนั้น อัตราการจะถูกลากลงนรกหลังจบชีวิตไป มีสูงกันเป็นอย่างมาก

C360_2013-09-12-17-11-06-703

นรกขุมที่ 1 สัญชีวนรก ระยะเวลาจองจำ อายุ 500 ปีนรก โดย 1 วันนรกเท่ากับ 9 ล้านปีมนุษย์ กดเครื่องคิดเลขคำนวณโดยยึด 1 ปีเท่ากับ 365 วัน (ไม่รู้ว่านรกยึดแบบเดียวกันบนโลกมั้ย) ผลออกมาคือ 1,642,500 ล้านปี

แม่เจ้า แค่ขุมแรก ก็แทบจะไม่อยากสัมผัสแล้ว

นรกขุมแรก ต้อนรับบุคคลชั่วประเภทดังนี้ ก่อกรรมทำเข็ญ มีจิตใจสกปรก ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เบียดเบียนผู้อื่นให้ได้รับความทุกข์ ฯลฯ

อืมนะ ชีวิตหนอชีวิตหลังความตาย ช่างต้อนรับคนชั่วกันอย่างสาสมจริงๆ ส่วนการรับโทษมีกันสารพัดแบบ ชนิดการทรมานฆ่าคนจากหนังเรื่อง Saw ยังต้องชิดซ้ายกลายเป็นเรื่องขี้เล็บ โดยหลักๆ คือพอโดนทรมานจนตาย ก็จะฟื้นมาใหม่ด้วย "ลมกรรม" จากนั้นก็เสวยทุกข์กันต่อไม่รู้จักจบสิ้น จนกว่าจะสาสมกับกรรมที่ได้ทำมา

C360_2013-09-12-16-58-17-285

ยิ่งอันดับที่ขุมเพิ่มขึ้น อัตราการลงโทษก็ยิ่งรุนแรง บางอย่างทำไว้บนโลกมนุษย์ เช่นการ ฆ่าสัตว์ต้องห้าม 3 อย่าง เต่า หมี เสือ (ไม่เข้าใจนะว่าทำไมต้อง หมีและเสือ แต่เขาไม่ได้อธิบายไว้ ส่วนน้องเต่าน่าจะเข้าใจว่ามันเป็นสัตว์อายุยืน) การรับโทษ แม่งต้องบอกว่า โหดสัส!

วิธีการคือ นอนแผร่างบนดอกบัวเหล็ก ข้างล่างเป็นเปลวเพลิงร้อน ก่อนจะโดนดอกบัวเหล็กร้อนๆ แหลมๆ ทิ่มตาย โอยยย ฉิบหาย ยิ่งอ่านผมแม่งก็ยิ่งกลัว และถ้าจำไม่ผิดนะ แค่เราปิ้งย่างสัตว์เพื่อกินเป็นอาหาร ตอนตายห่าก็ต้องโดนเอาคืนไม่ต่างกัน (พวกแดกปิ้งย่างระวังกันให้ดีๆ ปลาหมึกสดๆ กุ้ง หอย ปูสดๆ)

และผมต้องทำยังไงในฐานะชาวพุทธ เพราะหลังจากอ่านเรื่องขุมนรกเสร็จ ประสาทก็แทบแดก เท่าที่นึกออกอยู่ตอนนั้น คือบวชเป็นพระกันสถานเดียว แล้วเลิกยุ่งเกี่ยวทางโลก น่าจะเป็นหนทางที่เอาตัวรอดจากนรกให้ดีที่สุดแล้ว

C360_2013-09-12-16-57-10-700

แต่เดี๋ยวก่อน ณ ปัจจุบัน กะอีแค่จะถือศีล 5 ให้ครบ ก็แทบจะยากตายห่าอยู่แล้ว เมื่อเห็นดังนั้น การหนีไปบวชในสภาพที่เอาตัวเองทางโลกไม่รอด แล้วไปอยู่ทางธรรม จากจะได้กุศลเยอะ กลับกลายเป็นได้บาปเยอะกว่าเดิม โดยยึดหลักจากการสอนของอาจารย์พุทธศานาตอนม.ต้น ที่แกบอกว่า เป็นพระถ้าทำบาป ก็ให้จำนวนศีลที่ถือคูณเข้าไป นั้นแหละที่อัตราความบาปทีบ่งบอกไว้ และตายไปเราสมควรจะเจอ

ถึงตอนนี้ ผมเริ่มชักอยากจะเปลี่ยนไปนับถือคริสต์แล้ว ว่าแต่ว่าฝั่งนู้นโทษมันจะสาหัสเท่ากันมั้ย?

ปล.ชาวพุทธท่านไหน อยากรู้เพิ่มไปหาอ่านเอา กับหัวข้อ "วัฏสงสาร"